เหตุผงะหน้าร้านสะดวกซื้อ หนุ่มใหญ่วูบดับคาเบาะรถจักรยานยนต์

หนุ่มใหญ่มาร้านสะดวกซื้อ ชาวบ้านเห็นหน้าฟุบนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์นานผิดสังเกต เดินเข้ามาดูพบเสียชีวิต คาดโรคประจำตัวกำเริบ

(12 ก.ย.) เมื่อเวลา 19.30 น. พ.ต.ท.เอกชัย พรมทอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีคนเสียชีวิตบริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณก่อนถึงสะพานเอกาทศรถ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก

ที่เกิดเหตุบริเวณที่จอดรถพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว นั่งคร่อมฟุบหน้าคารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอสีแดง ตามร่างกายไม่พบบาดแผลของการถูกทำร้ายใดๆ

นอกจากนี้ ตรวจสอบในตัวไม่พบเอกสารหลักฐานบัตรประชาชน มีเพียงซองยาของโรงพยาบาลพุทธชินราชซึ่งเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด ระบุชื่อ นายสำเริง อายุประมาณ 50 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างส่งผ่าชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร

จากการสอบถาม ชาวบ้าน ทราบว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ และมีอาการวูบจนหน้าฟุบในลักษณะท่านั่งคร่อมคาอยู่ที่รถคันดังกล่าว แต่ก็เห็นนานจนผิดสังเกตจึงเดินเข้าไปดูก็พบว่าไม่มีลมหายใจเสียชีวิตไปแล้ว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

ทั้งนี้ สันนิษฐานคาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะมีโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ อาจเกิดกำเริบขึ้นจนวูบเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดต่อญาติเพื่อสอบถามหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนศพจะมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป

เพิ่งเคยเจอ ลูกไก่ 3 ขา เชื่อมาให้โชค คอหวยรู้ข่าว รีบมาดู ตีเลขเด็ด

ลูกไก่ประหลาด อายุ 3 วัน มีขาที่ 3 งอกออกมา เจ้าของเชื่อมาให้โชค ตั้งชื่อ “เจ้าสามขา” คอหวยแห่ตีเลขเด็ด ด้านผู้รู้ บอกมีความเป็นไปได้ อาจเกิดจากไข่แฝด

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ชาวบ้านต่างลือกันให้แซด เมื่อได้ยินข่าวลูกไก่ประหลาดมี 3 ขา ถูกเลี้ยงในบ้านเลขที่ 189 หมู่ 4 บ้านตากแดด ต.บึงทวาย อ.เต่างอย จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบ้านของนายสมยศ ดงภูยาว อายุ 54 ปี ได้นำลูกไก่มาเลี้ยงไว้ในคอกยกสูง เพื่อป้องกันสัตว์อื่นรบกวน

นายสมยศ เล่าว่า ลูกไก่ตัวนี้เป็นพันธุ์ผสมไก่ชนกับไก่พื้นบ้าน หลังจากฟักออกมาจากไข่ในคอกภายในสวนยางพารา ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของลูกไก่ตัวนี้ โดยบริเวณหางของลูกไก่ มีขาโผล่ออกมาอีก 1 ขา รวมเป็น 3 ขา โดยขาที่โผล่ออกมามีนิ้วเท้า 5 นิ้ว เป็นที่น่าแปลกประหลาด ซึ่งตั้งใจจะเลี้ยงเก็บไว้ เพราะเห็นว่าแปลกดี พร้อมตั้งชื่อ “เจ้าสามขา” และเชื่อว่าอาจจะมาให้โชค

ส่วนภาพลูกไก่ 3 ขา ตามที่แชร์ไปทางโซเชียล ได้มีคอหวยตีเลขเด็ด 935 และ 53 บางคนจะซื้ออายุและบ้านเลขที่ของตน ซึ่งเพิ่งขอมาได้ใหม่ๆ ใครอยากจะเอาไปเสี่ยงโชคแล้วแต่วิจารณญาณ เพราะตนนั้นไม่ยุ่งกับอบายมุขทางนี้ สนใจแต่งานทำเกษตร ทั้งกรีดยางพารา เลี้ยงไก่ เลี้ยงปู เลี้ยงหนูพุก และเลี้ยงกระต่าย โดยอยู่ง่ายๆ แบบพอเพียง

“เลี้ยงไก่มาตั้งนาน จนอายุป่านนี้ เพิ่งเห็นลูกไก่ลักษณะแบบนี้ ตอนนี้แข็งแรงดีอายุได้ 3 วันแล้ว และเมื่อสอบถามไปยังผู้รู้ในด้านปศุสัตว์จนทราบสาเหตุไก่ 3 ขา นั้นเป็นเรื่องปกติในทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นได้ อาจมาจากแฝดลูกไก่ในไข่ตายลง จึงเหลือเพียงตัวเดียวและมีอวัยวะติดออกมา”.

จอมปลวกประหลาดคล้ายคนนั่งกวักมือ คอหวยฮือฮา ตัวเลขโผล่นูนขึ้นมาชัดๆ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีคนพบจอมปลวกรูปร่างประหลาด คล้ายกับคนนั่งกวักมือหันหน้าเข้าหาสำนักงานเกษตรอำเภอรัตนบุรี อยู่ที่บริเวณข้างกำแพงภายในสำนักงานเกษตรอำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์  โดยพบอยู่ใกล้ๆกับประตูทางเข้าสำนักงานด้านขวามือ โดยจอมปลวกมีความสูงประมาณ 1 เมตร  ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบยังสำนักงานเกษตรอำเภอรัตนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 12  ถนนสายรัตนบุรี – ทับใหญ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์

เมื่อเดินทางไปถึงสำนักงานเกษตรอำเภอรัตนบุรี ก็ได้พบกับ นายจิตกรวัฒน์ สาแก้ว ซึ่งเป็นเกษตรอำเภอ อยู่ที่สำนักงานคนเดียว เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดชดเชย และได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยง ตนได้เข้ามาที่สำนักงานเพื่อที่จะมารอรับไม้เก่าที่ชาวบ้านบริจาคและขนมาให้ เพื่อที่จะนำไปสร้างเป็นบ้านชนเผ่า (ลาว) ในงานช้างจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งในปีนี้ทางอำเภอรัตนบุรีรับเป็นผู้ดำเนินการ โดยให้ทางสำนักงานเกษตรอำเภอรัตนบุรีเป็นผู้จัดสร้างให้ และในขณะที่ตนกำลังเดินดูสถานที่เพื่อที่จะหาที่เก็บไม้ ก็เหลือบไปเห็นจอมปลวกที่อยู่ริมกำแพงของสำนักงานใกล้กับประตูทางเข้าสำนักงาน ตนจึงเข้าไปดูใกล้ๆ เนื่องจากรู้สึกแปลกใจที่วันนี้ทำไมบังเอิญมองเห็น ทั้งๆ ที่จอมปลวกนี้น่าจะมีมานานแล้ว

และเมื่อเข้ามาดูใกล้ๆ  ก็พบว่าที่บริเวณจอมปลวกคล้ายๆ กับมือคนยกขึ้นในลักษณะกวักมือ มีตัวเลขนูนขึ้นมาอย่างชัดเจน ซึ่งน่าจะเป็นเส้นทางเดินของปลวก ซึ่งตนมองเห็นเป็นเลข 84 จึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย แล้วก็โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว 

หลังจากที่ข่าวนี้ได้มีการแชร์ผ่านเฟซบุ๊กกันต่อๆ ไป ก็ได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าว ได้เดินทางมาขอดูกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งชาวบ้านที่ขนไม้มาบริจาคให้กับสำนักงานเกษตรอำเภอในวันนี้ด้วย บางคนก็บอกว่าคล้ายกับกุมารทองยืนกวักมือ โดยเฉพาะตัวเลขที่ปูดนูนขึ้นมาที่บริเวณจอมปลวกที่มีรูปร่างคล้ายกับแขนคนยกขึ้นกวักมือ ซึ่งส่วนใหญ่มองเห็นเป็นเลข 84  และ 848 บางส่วนก็เห็นเป็นเลข 88 และบางคนก็ตีเป็นว่า หัวหรือมือก็น่าจะเป็น 5 ซึ่งก็น่าจะเป็นเลข 584  โดยต่างก็บอกว่า แล้วแต่ดวงของใครของมันที่จะนำเอาไปเสี่ยงโชคเอาเองในงวดวันที่ 16 ตุลาคม 2562 ที่จะถึงนี้

คุณตาวัย 76 โกงความตาย วูบหมดสติแต่ยื้อชีวิตกลับมาได้ “ยมทูต” บอกเอาไปผิดคน

คุณตาวัย 76 ปี โกงความตาย เผยตอนหมดสติได้พูดคุยกับยมทูตที่มารับ แต่บังเอิญยมทูตเอาไปผิดคนจึงเอากลับมาคืน ขณะที่ลูกหลานไม่วายเอาอายุ และปีเกิดไปเสี่ยงโชค

(15 ต.ค.62) จากกรณีที่ น.ส.ศศพรรณ สวรรค์ตรานนท์ ผู้ช่วยโทรศัพท์จังหวัดเพชรบูรณ์ด้านบริการ และนางชัยรัตน์ ทิมทอง ผู้จัดการศูนย์บริการลูกค้าทีโอที สาขาเพชรบูรณ์ ได้ทำการปั๊มหัวใจช่วยเหลือ นายประเกียบ ขุนแก้ว หรือ คุณตาแต๋ อายุ 76 ปี ที่หมดสติไม่หายใจ ชีพจรไม่มี ขณะที่กำลังเอาน้ำเข้านาข้าว สองสาวบริษัททีโอที ผ่านไปพบและให้การช่วยเหลือ ก่อนที่หน่วยกู้ชีพจากโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ จะเดินทางไปถึง ทำให้คุณตาแต๋รอดพ้นจากความตายทั้งๆ ที่หยุดหายใจและไม่รู้สึกตัวเกือบ 6 นาที

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ต.ค.2562 ที่ผ่านมา และหลังจากคุณตาแต๋ได้เข้ารับการรักษาและนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์จนร่างกายแข็งแรง แพทย์จึงให้กลับบ้าน โดยคุณตาแต๋ได้เล่าถึงเหตุการณ์ประหลาดให้ลูกหลานฟังในขณะที่หมดสติไป จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายประเกียบ ขุนแก้ว หรือ คุณตาแต๋ ซึ่งมีร่างกายที่แข็งแรง อาศัยอยู่บ้านกลางทุ่งนาเพียงลำพัง  และมีลูกหลานแวะเวียนมาเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง

โดยคุณตาแต๋ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้พาชาวบ้านไปลอกน้ำเข้านา โดยก่อนหน้านั้นรู้สึกปวดที่บริเวณหัวใจอยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นอะไร จึงได้ออกไปทำงาน และขณะที่กำลังเอาน้ำเข้านาอยู่นั้น รู้สึกปวดที่หัวใจมากขึ้น จึงขึ้นมานั่งอยู่ด้านบนเพื่อพักผ่อน แต่ก็เกิดอาการวูบไปและไม่รู้สึกตัวอีกเลย กระทั่งมีคนมาช่วยปั๊มหัวใจจนรู้สึกตัว แต่ก็วูบไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ตนรู้สึกว่าไปฟื้นและนั่งอยู่สถานที่แห่งหนึ่งกับผู้หญิงอีกคน โดยมีผู้ชายสองคนแต่งตัวแปลกๆ มีผ้าโพกหัวสีแดง ไม่ใส่เสื้อ แต่มีผ้าพาดที่หน้าอก โดยคนแรกเป็นคนถามชื่อตน ตนจึงบอกไปว่าชื่อแต๋ ประเกียบ ขุนแก้ว โดยให้ผู้ชายอีกคนเป็นคนจดลงในสมุดอะไรสักอย่าง จากนั้นก็หันไปถามผู้หญิงว่าชื่ออะไร ผู้หญิงคนดังกล่าวบอกชื่อแต๋ แต่เขียนไม่เหมือนกั

จากนั้นคนที่จดชื่อก็บอกว่าคนที่ตายคือผู้หญิง ส่วนตนเอามาผิดคน จึงให้รีบเอาตัวไปส่งกลับบ้าน จากนั้นตนจึงรู้สึกตัวพบว่าอยู่ภายในห้องพยาบาลที่มีหมอและพยาบาลกำลังช่วยเหลือ ซึ่งตนคิดว่าเหตุการณ์ในขณะที่หมดสติไปนั้น ต้องเป็นยมทูตมารับตนไปอย่างแน่นอน แต่บังเอิญเอาไปผิดคน จึงเอากลับมาคืน ขณะนี้ตนก็ไม่เป็นอะไรมาก ยังทำงานได้ตามปกติ แต่รู้สึกเจ็บที่หน้าอกบ้าง ซึ่งก็คาดว่าน่าจะมาจากการที่ถูกปั๊มหัวใจนั่นเอง

ทั้งนี้หลังจากลูกหลานและชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างก็มาเยี่ยมสอบถามอาการ แต่ก็ยังไม่วายที่จะเอาอายุคือ 75 และ 76 ปี และ พ.ศ.เกิด คือ 2487 ไปเสี่ยงโชค เพราะคาดว่าคุณตาแต๋โชคดีที่ไม่เสียชีวิต อาจจะนำโชคลาภมาให้ลูกหลานก็เป็นได้

คอหวยจับตา งูหลามใหญ่เลื้อยตกบ่อบาดาล แช่น้ำจนตัวซีดนานกว่า 3 วัน

(18 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองไผ่ อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีงูขนาดใหญ่เลื้อยตกลงไปในบ่อน้ำลึก ซึ่งภายในมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก โดยงูตัวดังกล่าวเริ่มมีสภาพอ่อนแรง ลำตัวเริ่มซีด คาดตกน้ำมาแล้วหลายวัน จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดหนองไผ่ ให้จัดเตรียมอุปกรณ์จับสัตว์เลื้อยคลาน

ที่เกิดเหตุ บริเวณหลังบ้านเลขที่ 54 หมู่ 1 ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ พบบ่อน้ำบาดาลเก่า ทำด้วยวงท่อซีเมนต์ ฝังดินเรียงกันทั้งหมด 5 บ่อ โดย 4 บ่อแรกถูกดินถมจนเต็ม แต่บ่อสุดท้าย พบว่ายังคงมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อก้มมองลงไปในบ่อพบงูขนาดใหญ่ ลำตัวสีเหลือง สลับน้ำตาล-ดำ กำลังพยายามเลื้อยวนไปมาเพื่อหาทางขึ้นมาปากบ่อ แต่พอเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์จับ ก็รีบมุดน้ำหนีลงไปก้นบ่อทันที

โดยเจ้าหน้าที่เฝ้ารออยู่ปากบ่อนานเกือบครึ่งชั่วโมง งูตัวดังกล่าวก็ไม่มีทีท่าจะโผล่ลอยน้ำขึ้นมาให้จับสักที จึงตัดสินใจหาตะขอเหล็กมัดใส่ปลายไม้ พยายามควานหาตัวที่ก้นบ่อ กระทั่งสามารถเกี่ยวขึ้นมาสู่ผิวน้ำ ก่อนใช้อุปกรณ์จับได้สำเร็จ อย่างปลอดภัย ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นงูหลามใหญ่ ขนาดลำตัวยาวกว่า 2 เมตร จึงได้ช่วยกันจับตัวใส่ถุงปุ๋ย นำไปปล่อยในป่าคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

           

จากการสอบถาม นางสมหมาย อายุ 65 ปี เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนได้ทำการซื้อขายที่ดินมาจากเจ้าของเดิม ซึ่งเคยเป็นโรงสีเก่ามาก่อน โดยเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ตนได้ว่าจ้างรถแบคโฮเข้ามาดำเนินการปรับที่ และรื้อโครงสร้างโรงสีเก่า เพื่อปรับพื้นที่ทำการเกษตร ปลูกไม้ผลและพืชผักสวนครัว

กระทั่งวันนี้ตนได้เดินสำรวจบริเวณสุดเขตแดนซึ่งอยู่ติดกับไร่อ้อย พบว่ามีบ่อบาดาลเก่า ซึ่งใช้เป็นบ่อพักน้ำของโรงสี โดย 1 ใน 5 บ่อ พบว่ามีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก ตนจึงชะโงกหน้ามองลงไปภายในบ่อ ก็ต้องตกใจแทบช็อก เมื่อเห็นงูหลามใหญ่ พยายามเลื้อยวนไปมาเพื่อหาทางขึ้นมาจากปากบ่อ

แต่เนื่องจากระดับน้ำกับขอบบ่อ ห่างกันราว 1.50 เมตร ทำให้งูหลามไม่สามารถขึ้นมาได้ ประกอบกับ ตามลำตัวเริ่มมีสีซีด จากการแช่น้ำมาแล้วหลายวัน คาดว่าขณะที่แบคโฮเข้าทำการปรับที่และรื้อถอน งูหลามที่อาศัยอยู่ในบริเวณโรงสีเก่าตกใจเสียงรถแบคโฮ จึงเลื้อยหนีอย่างรวดเร็ว ก่อนพลาดตกลงไปในบ่อน้ำบาดาล โชคดีที่ตนเดินมาเห็นเสียก่อน จึงรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยมาทำการช่วยเหลือได้สำเร็จ

ทั้งนี้ คอหวยที่ทราบข่าวต่างพากันจับตาถึงเลขเด็ดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะเจ้างูเหลือมสามารถรอดชีวิตมาได้ แม้จะตกอยู่ในบ่อน้ำนานถึง 3 วัน

พระราชทานเพลิงศพ “หลวงปู่สอ” เกิดปาฏิหาริย์ท้องฟ้ามืดครึ้ม-เลขเด็ดเกลี้ยงแผง

พระราชทานเพลิงศพเกจิดัง “หลวงปู่สอ” 114 ปี เกิดปาฏิหาริย์ท้องฟ้ามืดครึ้มจนเสร็จพิธี ศิษยานุศิษย์นับหมื่นแห่ร่วมงาน ขณะที่เลขเด็ดถูกกวาดเกลี้ยงแผง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่เมรุชั่วคราวโรงเรียนไตรราษฎร์วิทยาคาร บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน สถานที่จัดงานพระราชทานเพลิงศพพระครูปลัดสอ ขันติโก หรือ หลวงปู่สอ พระเกจิชื่อดัง 6 แผ่นดิน อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อายุ 114 ปี 94 พรรษา ซึ่งได้ละสังขาร ด้วยโรคชรา ไปอย่างสงบ เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา

>> “หลวงปู่สอ ขันติโก” พระเกจิดังแห่งนครพนมสิ้นแล้ว

โดยในพิธีครั้งนี้มี พระเทพวิสุทธิโมลี รักษาการเจ้าคณะภาค 10 ประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีอัญเชิญไฟพระราชทาน ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่สอ

โดยมีข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงาน เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ศิษย์ยานุศิษย์จากหลายจังหวัดในภาคอีสาน และพุทธศาสนิกชน เดินทางมาร่วมพิธีดังกล่าวกว่า 10,000 คน ซึ่งจะมีการประกอบพิธีเผาจริง ในเวลา 20.00 น. ส่วนภาคเช้าจะมีการประกอบพิธีทำบุญเก็บอัฐิ ก่อนนำไปลอยอังคารในลำน้ำโขง ตามประเพณีความเชื่อ

ภายหลังเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพ ได้เปิดให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกราบสักการบูชา ถวายดอกไม้จันทน์ และทำบุญทอดผ้าบังสุกุล เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้มาร่วมพิธี โดยเชื่อกันว่าหากใครได้มาร่วมพิธี จะส่งผลให้มีโชคลาภ เกิดความเจริญรุ่งเรือง และมีแต่ความร่วมเย็นเป็นสุข

ทั้งนี้ ในช่วงประกอบพิธีเป็นที่น่าอัศจรรย์เชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ เนื่องจากตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้ามีแดดจ้า แต่ช่วงประกอบพิธี ได้มีเมฆบดบังดวงอาทิตย์ ท้องฟ้ามืดครึ้ม และมีฝนโปรยปรายลงมาเป็นเหมือนละอองฝนเป็นระยะ ถือเป็นบุญบารมีของหลวงปู่สอ ที่แสดงให้พุทธศาสนิกชนได้รับรู้ถึงบุญบารมี ที่ได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาตลอดชีวิต

ที่สำคัญได้มีบรรดานักเสี่ยงโชค คอหวย ได้แห่ซื้อเลขมงคลเกี่ยวกับ หลวงปู่สอ ทั้งเลขอายุ คือ 114 เลขพรรษา 94 พรรษา รวมถึงวันที่พระราชทานเพลิงศพ คือ 19 ขายดีจนเกลี้ยงแผง

สำหรับประวัติ พระครูปลัดสอ (หลวงปู่สอ ขันติโก) เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อายุ 114 ปี รวม 93 พรรษา ถือเป็นพระ พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน มีนามเดิมว่า สอ แก้วดี เกิดในตระกูลชาวนา บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันจันทร์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2448 ปีมะเส็ง ตรงกับปลายรัชกาลที่ 5 เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 6 คน เสียชีวิตหมดแล้ว

โดยเมื่อแรกเกิดจากคำบอกเล่า ของญาติพี่น้องลูกหลาน มารดาหลวงปู่สอ เคยเล่าว่า บุตรชายตอนแรกเกิดมีสายรกพันคอ โบราณเชื่อว่า โตมาจะได้บวชร่ำเรียน ขณะที่ชีวิตในวัยเด็ก พื้นฐานมีนิสัยเป็นคนเรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน นิสัยชอบเข้าวัดฟังธรรม ผิดกับเด็กอื่นในวัยเดียวกัน

จนกระทั่งบิดามารดาได้พาไปกราบทำบุญฝากเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่สีทัตถ์ พระเกจิชื่อดัง ของ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ด้วยความเลื่อมในศรัทธา บวชเป็นสามเณรรับใช้ ตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบท มีหลวงปู่สีทัตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่รับใช้อุปัฏฐากผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ระยะหนึ่งจึงได้ออกธุดงค์ไปตามป่า จนกระทั่งได้รับทราบข่าวอาการป่วยของมารดา ในขณะที่หลวงปู่มีอายุ 32 ปี พรรษา 12 จึงลาสิกขามาดูแลบุพการีจนวาระสุดท้าย

จนกระทั่งในเวลาต่อมาจึงเข้าอุปสมบทอีกครั้ง และได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามป่าเขาในพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนจะข้ามไปฝั่งลาว อยู่จำพรรษาพัฒนานาวัดบ้านบุ่งนานหลายปี สป.ลาว หลายปี หลังหลวงปู่สีทัตถ์ ผู้เป็นอาจารย์ละสังขาร

จึงเดินทางกลับมาที่ฝั่งไทย จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งได้บำเพ็ญเพียรภาวนา จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านและศิษยานุศิษย์ตลอดมา ที่สำคัญ ยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน

ดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย สายตายังมองเห็นชัด หูได้ยินเป็นปกติ ที่ทำให้อายุยืน เหงือกและฟันยังอยู่ครบเต็มปาก ซึ่งหลวงปู่สอ ได้เผยถึงเคล็ดลับอายุยืนว่า ฉันภัตตาหารเนื้อปลา ยอดผักสด กล้วยน้ำหว้าวันละ 1 ลูก เป็นหลัก ควบคู่กับการเจริญภาวนา ให้จิตใจสงบ เชื่อว่าจะสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้

ขณะเดียวกันในแวดวงเซียนพระ เชื่อกันว่า ใครได้วัตถุมงคลหลวงปู่สอไปบูชา จะเกิดปาฏิหาริย์เรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวยเป็นหลัก ส่วนเหรียญรุ่นแรก คือ เมตตามหานิยม มีจำนวนจำกัด ประมาณ 1,700 เหรียญ

ส่วนเหรียญเนื้อทองคำ มีประมาณ 99 เหรียญ เหรียญเงิน แค่ประมาณ 1,000 กว่าเหรียญ ทุกวันนี้หายาก มีวงการพระให้มูลค่าราคาเช่าไว้เกือบแสนบาท ซึ่งได้จัดสร้างมาหลายรุ่น และรุ่นสุดท้าย รุ่นแผ่บารมี สร้างแค่ไม่กี่ 100 เหรียญ ทุกวันนี้หายาก

อย่างไรก็ตาม หลวงปู่สอ ไม่ได้สอนให้ยึดติดเรื่องวัตถุมงคล แต่เน้นเรื่องการทำความดี แต่การนับถือเป็นความเชื่อบุคคล การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นเรื่องเศร้ากับลูกศิษย์เป็นอย่างมาก เพราะถือว่า เป็นพระเกจิองค์สุดท้าย ที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน

สาวโชว์รูมซื้อหวยเลขท้ายรถ ปุ๊บปั๊บรับโชค 6 ล้าน แสนเสียดายแบ่งซื้อมาใบเดียว

(16 ต.ค. 62) นางสาวปนัดดา ผิวทอง อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดยโสธร พนักงานศูนย์บริการฮอนด้า พร้อมเพื่อนได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุพล ดุมกลาง รอง สว.สอบสวน สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เพื่อลงบันทึกประจำวันว่าตนเองเป็นผู้โชคดี ถูกรางวัลผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 หมายเลข 812564 จำนวน 1 ใบ รับเงินรางวัล 6 ล้านบาท

นางสาวปนัดดา สาวดวงเฮง บอกเพียงว่าตนไปกินข้าวในร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ชุมแพ แล้วมีแม่ค้านำลอตเตอรี่มาขายให้ ซึ่งก็พบว่ามีหมายเลข 812564 อยู่ด้วย ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 2 ใบ แต่ตนขอซื้อไว้เพียง 1 ใบเท่านั้นในราคา 100 บาท เนื่องจากเป็นตัวเลขท้ายตรงกับทะเบียนรถที่ขับ 564 อยู่ทุกวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยซื้อตามมา 3 ปีแล้ว และบางครั้งก็จะซื้อเลขสลับไปมา เคยถูกหวย รางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวบ้างในบางงวด

จนกระทั่งช่วงเย็นวันนี้หลังผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมา ปรากฏว่าตรงกับรางวัลที่ 1 รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังเสียดายที่ไม่ได้ซื้อมาทั้ง 2 ใบ หลังเลิกงานจึงรีบมาลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับเงินรางวัล 6 ล้านบาท ตอนนี้ยังไม่มีแผนจะนำมาใช้ คงต้องปรึกษาหารือกับทางครอบครัวก่อน

ขุดเพิ่มสำเร็จอีก 4 “ต้นตะเคียนโบราณ” ชาวบ้านเชื่อมุดหนีไปเองได้

เจอเพิ่มอีก 4 ต้นแล้ว ต้นตะเคียนโบราณที่โคราช หลังก่อนหน้านี้พยายามใช้รถแบ็คโฮกู้ขึ้นมาจากน้ำไม่สำเร็จ ชาวบ้านเชื่อมุดหนีไปเองได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 ต.ค.) คลองน้ำสาธารณะบ้านขาคีม ตำบลหลุมข้าว อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา พบชาวบ้านจำนวนมาก ได้ร่วมกันประกอบพิธีจุดธูปเทียน กราบไหว้ขอขมาเทวดาฟ้าดิน เพื่อให้เปิดทาง ในการใช้รถแบ็คโฮขนาดใหญ่ ขุดหาต้นตะเคียนภายในคลองน้ำ

โดยชาวบ้านเชื่อว่า ยังมีต้นตะเคียนหลงเหลืออยู่อีกประมาณ 4 ต้น หลังจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้ขุดพบต้นตะเคียนขนาดใหญ่ มาแล้วในคลองน้ำแห่งนี้ จำนวน 9 ต้น โดยก่อนที่จะขุดค้นได้นำร่างทรงมาประกอบพิธีเปิดทางโดยร่างทรงบอกว่า ยังคงมีดวงวิญญาณของชายชาติทหารในอดีตที่ยังคงสิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียน และยังคงจมอยู่ในคลองน้ำซึ่งมีความลึกประมาณกว่า 2 เมตร

แต่ในระหว่างที่รถแบ็คโฮได้ขุดเปิดทางน้ำชาวบ้านได้ดำน้ำลงไปดูพบว่ามีต้นตะเคียนขนาดใหญ่อยู่จริง แต่พอรถแบ็คโฮจะขุดขึ้นมา ต้นตะเคียนก็จะดำดินหนีลงไปเรื่อยๆ ทำให้ได้แค่เปลือกของต้นตะเคียนเท่านั้น ทั้งๆ ที่ชาวบ้านดำน้ำเห็นต้นตะเคียนมีอยู่จริง แต่เชื่อว่าต้นตะเคียนสามารถดำน้ำหนีรถแบ็คโฮไปได้

ล่าสุด ทางชาวบ้านได้ประกอบพิธีขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคลองน้ำโดยนำ ดอกไม้ธูปเทียน ใส่พานมากราบไหว้ หลังจากนั้น อยู่ดีๆ ต้นตะเคียนก็โผล่ขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ จำนวน 4 ต้น มีทั้งต้นเล็กๆ จนถึงต้นขนาดใหญ่ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำต้นตะเคียนขึ้นมาจากน้ำ

รวมพบต้นตะเคียนในจุดนี้จุดเดียวรวม ทั้งหมด 13 ต้น และ ยังเหลืออีก 2 ต้น โดยหลังจากนี้ทางชาวบ้านจะได้พยายามนำขึ้นมาทั้งหมด

แอร์รถเหม็นสาบ-เลี้ยวให้ศูนย์เช็ก ผงะเจองูเหลือม 2 เมตรแอบซ่อนตัวอยู่

สาวใหญ่เปิดแอร์รถตัวเอง ได้กลิ่นเหม็นสาบแปลกๆ ตัดสินใจขึ้นเข้าศูนย์ให้เจ้าหน้าที่เช็ก แต่ต้องสะดุ้งเพราะเจองูเหลือม 2 เมตร แอบซ่อนตัวอยู่

(7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้รับแจ้งจากประชาชนขอความช่วยเหลือ งูเหลือมติดอยู่ภายในห้องเครื่องยนต์รถยนต์คันหนึ่ง เหตุเกิดบริเวณศูนย์บริการฮอนด้ารังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่มีความชำนาญในการจับงูรุดให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีขาว จอดเปิดฝากระโปรงด้านหน้ารถอยู่ภายในช่องจอด โดยที่ข้างรถพบ นางสาวสมคิด อายุ 52 ปี เป็นเจ้าของรถ และช่างประจำศูนย์ชี้ให้ดูงูเหลือมที่ซุกตัวอยู่ภายในห้องเครื่องโดยเลื้อยไปจนติดอยู่กับซุ้มล้อรถฝั่งขวา เจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญจึงจับงูด้วยมือเปล่า พบเป็นงูเหลือมลำตัวยาวประมาณ 2 เมตร จึงนำใส่กระสอบเพื่อนำไปปล่อยในแหล่งธรรมชาติห่างไกลบ้านเรือนประชาชน

นางสาวสมคิด เจ้าของรถเปิดเผยว่า ตนจะเอารถมาเข้าศูนย์ เพื่อที่จะให้ช่างมาตรวจสอบระบบแอร์ทำความเย็น เนื่องจากจอดรถมาหลายวัน และรู้สึกมีกลิ่นเหม็นอับเหม็นสาบ แต่ไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เมื่อขับมาถึงก็ให้ช่างเปิดฝากระโปรงหน้ารถดู ปรากฏว่าจองูนอนขดตัว และที่ผ่านมาก็พบว่ามีคราบงูลอกคราบในฝากระโปรงรถของตน

ทั้งนี้ตนขับออกจากบ้านมากว่า 20 กิโลเมตร แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีงูอยู่ด้วย หลังพบเจอจึงประสานกู้ภัยมาช่วยจับนำไปปล่อยต่อไป ขณะที่ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างให้ความสนใจเลขทะเบียนรถคันที่เกิดเหตุเป็นอย่างมาก ที่ปรากฏตัวเลข 4445 บางคนตั้งใจจะนำไปเสี่ยงโชคในงวดที่กำลังจะมาถึง

ฮือฮา ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ขอมโบราณ ชาวบ้านไม่พลาดแห่ขอเลขเด็ด

ชาวบ้านหนองตานา ต.หนองขาม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ขุดบ่อน้ำพบโครงกระดูกคาดว่าเป็นมนุษย์ขอมโบราณอายุหลายร้อยปี เตรียมแจ้งเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ต.ค.) ชาวบ้านหนองตานา หมู่ 4 ต.หนองขาม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ขุดบ่อน้ำในพื้นที่นา แต่ได้พบโครงกระดูกคนโบราณ จึงได้ลงไปตรวจอยู่ในที่นาของ นายเฮียง โขมชัยภูมิ อายุ 70 ปี ซึ่งมีพื้นที่นาประมาณ 30 ไร่ ห่างจากหมู่บ้าน ประมาณ 1 กิโลเมตร

และพบชาวบ้านกว่า 10 คน กำลังช่วยกันนำโครงกระดูกมาล้างทำความสะอาด และนำมาเรียงต่อกันพร้อมด้วยเครื่องปั้นดินเผาคล้ายไหขนาดเล็กและยังพบว่ามีกำไรข้อมือที่เป็นเหมือนทองสัมฤทธิ์สมัยโบราณในสภาพหักครึ่ง

โดย นายเฮียง เจ้าของที่นาได้จ้างให้คนงานให้มาขุดบ่อน้ำในที่ดิน เพื่อหวังจะได้น้ำไปใส่นาข้าว ขณะที่คนงานขุดดินลึกลงไปประมาณ 2 เมตรถึงกับผงะตกใจ เพราะที่เจอคือโครงกระดูกมนุษย์พร้อมกับไหดินเผา และกำไรมือในสภาพแตกหัก หลังจากตั้งสติได้ จึงไปเรียกนายเฮียงมาดู และได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจดูว่าเป็นกระดูกของคนในยุคปัจจุบันหรือยุคโบราณหรือไม่

หลังจาก ชาวบ้านทราบข่าวต่างมาดูกันจำนวนมาก พร้อมบอกว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์โบราณ อายุน่าจะหลายร้อยปี ชาวบ้านบอกว่าถึงไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ จากนั้นก็มีชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ เพื่อขอพรเป็นสิริมงคลและขอโชคลาภตามระเบียบ

และต่างคนได้เลขเด็ดไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลตามเลขที่ตนเองมองเห็น งานนี้ ไม่พลาดหลังคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลทราบข่าว ต่างนำสลากกินแบ่งรัฐบาลมาบริการถึงสถานที่ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ

ชาวบ้านหญิงรายหนึ่ง ซึ่งมีที่นาติดกันต่อกับจุดที่พบโครงกระดูก เล่าว่า ที่ผ่านมาเมื่อตนเองมานอนเฝ้านาข้าวช่วงกลางคืนทุกครั้ง ก็มักจะฝันเห็นชายร่างใหญ่คล้ายคนโบราณทุกครั้ง และจะมักจะเจอของโบราณบ่อยๆ ในบริเวณนี้ เช่น สากหิน ถ้วย ชามต่างๆ ด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้านำออกไปจากบริเวณนี้

ด้าน นายสมยศ เรืองสุข ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 กล่าวว่า ตามคำบอกเล่าเมื่อก่อนที่บริเวณนี้เคยเป็นชุมชนเก่าแก่สมัยขอมโบราณยุคพระเจ้าชัยวรมัน ที่ 2 ซึ่งปัจจุบันยังมีปรางค์กู่ เจดีย์เก่าแก่ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน และที่ผ่านมาชาวบ้านเองก็ขุดเจอโครงกระดูกและเศษเครื่องปั้นดินเผาบ่อยๆ

เบื้องต้น ให้มีการจัดคนมาดูแล ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเวรยาม เพื่อมิให้ใครลงไปจับต้อง เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร มาตรวจสอบโดยละเอียดต่อไปอีกครั้ง