พระราชทานเพลิงศพ “หลวงปู่สอ” เกิดปาฏิหาริย์ท้องฟ้ามืดครึ้ม-เลขเด็ดเกลี้ยงแผง

พระราชทานเพลิงศพเกจิดัง “หลวงปู่สอ” 114 ปี เกิดปาฏิหาริย์ท้องฟ้ามืดครึ้มจนเสร็จพิธี ศิษยานุศิษย์นับหมื่นแห่ร่วมงาน ขณะที่เลขเด็ดถูกกวาดเกลี้ยงแผง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่เมรุชั่วคราวโรงเรียนไตรราษฎร์วิทยาคาร บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน สถานที่จัดงานพระราชทานเพลิงศพพระครูปลัดสอ ขันติโก หรือ หลวงปู่สอ พระเกจิชื่อดัง 6 แผ่นดิน อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อายุ 114 ปี 94 พรรษา ซึ่งได้ละสังขาร ด้วยโรคชรา ไปอย่างสงบ เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา

>> “หลวงปู่สอ ขันติโก” พระเกจิดังแห่งนครพนมสิ้นแล้ว

โดยในพิธีครั้งนี้มี พระเทพวิสุทธิโมลี รักษาการเจ้าคณะภาค 10 ประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีอัญเชิญไฟพระราชทาน ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่สอ

โดยมีข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงาน เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ศิษย์ยานุศิษย์จากหลายจังหวัดในภาคอีสาน และพุทธศาสนิกชน เดินทางมาร่วมพิธีดังกล่าวกว่า 10,000 คน ซึ่งจะมีการประกอบพิธีเผาจริง ในเวลา 20.00 น. ส่วนภาคเช้าจะมีการประกอบพิธีทำบุญเก็บอัฐิ ก่อนนำไปลอยอังคารในลำน้ำโขง ตามประเพณีความเชื่อ

ภายหลังเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพ ได้เปิดให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกราบสักการบูชา ถวายดอกไม้จันทน์ และทำบุญทอดผ้าบังสุกุล เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้มาร่วมพิธี โดยเชื่อกันว่าหากใครได้มาร่วมพิธี จะส่งผลให้มีโชคลาภ เกิดความเจริญรุ่งเรือง และมีแต่ความร่วมเย็นเป็นสุข

ทั้งนี้ ในช่วงประกอบพิธีเป็นที่น่าอัศจรรย์เชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ เนื่องจากตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้ามีแดดจ้า แต่ช่วงประกอบพิธี ได้มีเมฆบดบังดวงอาทิตย์ ท้องฟ้ามืดครึ้ม และมีฝนโปรยปรายลงมาเป็นเหมือนละอองฝนเป็นระยะ ถือเป็นบุญบารมีของหลวงปู่สอ ที่แสดงให้พุทธศาสนิกชนได้รับรู้ถึงบุญบารมี ที่ได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาตลอดชีวิต

ที่สำคัญได้มีบรรดานักเสี่ยงโชค คอหวย ได้แห่ซื้อเลขมงคลเกี่ยวกับ หลวงปู่สอ ทั้งเลขอายุ คือ 114 เลขพรรษา 94 พรรษา รวมถึงวันที่พระราชทานเพลิงศพ คือ 19 ขายดีจนเกลี้ยงแผง

สำหรับประวัติ พระครูปลัดสอ (หลวงปู่สอ ขันติโก) เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อายุ 114 ปี รวม 93 พรรษา ถือเป็นพระ พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน มีนามเดิมว่า สอ แก้วดี เกิดในตระกูลชาวนา บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันจันทร์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2448 ปีมะเส็ง ตรงกับปลายรัชกาลที่ 5 เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 6 คน เสียชีวิตหมดแล้ว

โดยเมื่อแรกเกิดจากคำบอกเล่า ของญาติพี่น้องลูกหลาน มารดาหลวงปู่สอ เคยเล่าว่า บุตรชายตอนแรกเกิดมีสายรกพันคอ โบราณเชื่อว่า โตมาจะได้บวชร่ำเรียน ขณะที่ชีวิตในวัยเด็ก พื้นฐานมีนิสัยเป็นคนเรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน นิสัยชอบเข้าวัดฟังธรรม ผิดกับเด็กอื่นในวัยเดียวกัน

จนกระทั่งบิดามารดาได้พาไปกราบทำบุญฝากเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่สีทัตถ์ พระเกจิชื่อดัง ของ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ด้วยความเลื่อมในศรัทธา บวชเป็นสามเณรรับใช้ ตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบท มีหลวงปู่สีทัตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่รับใช้อุปัฏฐากผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ระยะหนึ่งจึงได้ออกธุดงค์ไปตามป่า จนกระทั่งได้รับทราบข่าวอาการป่วยของมารดา ในขณะที่หลวงปู่มีอายุ 32 ปี พรรษา 12 จึงลาสิกขามาดูแลบุพการีจนวาระสุดท้าย

จนกระทั่งในเวลาต่อมาจึงเข้าอุปสมบทอีกครั้ง และได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามป่าเขาในพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนจะข้ามไปฝั่งลาว อยู่จำพรรษาพัฒนานาวัดบ้านบุ่งนานหลายปี สป.ลาว หลายปี หลังหลวงปู่สีทัตถ์ ผู้เป็นอาจารย์ละสังขาร

จึงเดินทางกลับมาที่ฝั่งไทย จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งได้บำเพ็ญเพียรภาวนา จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านและศิษยานุศิษย์ตลอดมา ที่สำคัญ ยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน

ดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย สายตายังมองเห็นชัด หูได้ยินเป็นปกติ ที่ทำให้อายุยืน เหงือกและฟันยังอยู่ครบเต็มปาก ซึ่งหลวงปู่สอ ได้เผยถึงเคล็ดลับอายุยืนว่า ฉันภัตตาหารเนื้อปลา ยอดผักสด กล้วยน้ำหว้าวันละ 1 ลูก เป็นหลัก ควบคู่กับการเจริญภาวนา ให้จิตใจสงบ เชื่อว่าจะสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้

ขณะเดียวกันในแวดวงเซียนพระ เชื่อกันว่า ใครได้วัตถุมงคลหลวงปู่สอไปบูชา จะเกิดปาฏิหาริย์เรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวยเป็นหลัก ส่วนเหรียญรุ่นแรก คือ เมตตามหานิยม มีจำนวนจำกัด ประมาณ 1,700 เหรียญ

ส่วนเหรียญเนื้อทองคำ มีประมาณ 99 เหรียญ เหรียญเงิน แค่ประมาณ 1,000 กว่าเหรียญ ทุกวันนี้หายาก มีวงการพระให้มูลค่าราคาเช่าไว้เกือบแสนบาท ซึ่งได้จัดสร้างมาหลายรุ่น และรุ่นสุดท้าย รุ่นแผ่บารมี สร้างแค่ไม่กี่ 100 เหรียญ ทุกวันนี้หายาก

อย่างไรก็ตาม หลวงปู่สอ ไม่ได้สอนให้ยึดติดเรื่องวัตถุมงคล แต่เน้นเรื่องการทำความดี แต่การนับถือเป็นความเชื่อบุคคล การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นเรื่องเศร้ากับลูกศิษย์เป็นอย่างมาก เพราะถือว่า เป็นพระเกจิองค์สุดท้าย ที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน

นาคน้อยรำถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ-แม่ย่าศรีปทุมมา คอหวยส่องขันน้ำมนต์เห็นชัดๆ 37

ส่องเลขเด็ดจากลานบวงสรวงหน้าเกาะคำชะโนด วังนาคินทร์ ดินแดนพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา นาคน้อย-คอหวย เผยเลขเด็ดจากขันน้ำมนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 ก.ย.) เวลา 12.20 น. จากลานบวงสรวงหน้าเกาะคำชะโนด วังนาคินทร์ ดินแดนพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา บ้านโนนเมือง หมู่ที่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่าวันนี้ที่ลานบวงสรวงหน้าเกาะคำชะโนดเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทุกสารทิศ เพื่อนำเครื่องไหว้มาแก้บนบ้างที่เคยบนไว้แล้วสำเร็จ บางคนก็มาบวงสรวงเปิดทรัพย์รับโชคของโชคลาภในวันใกล้หวยออกเผื่อปู่และย่าจะให้โชต

โดยมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี ได้นำคณะผู้มีจิตเป็นกุศลได้ร่วมกันบริจาคเป็นกองผ้าป่าเพื่อนำมาถวายที่วัดสิริสุทโธ ก่อนที่จะนำผ้าไปถวายได้ร่วมกันทำพิธีบวงสรวงที่ลานบวงสรวงก่อน ใช้เวลาทำพิธีบวงสรวงอยู่นานเกือบชั่วโมง

หลังจากนั้นทางคณะที่เดินทางมาถวายผ้าป่าร่วมกันรำบวงสรวงถวายปู่ศรีสุทโธและแม่ย่า หนึ่งในนั้นมีนาคน้อยเกาะคำชะโนดร่วมรำถวายปู่ ทำเอาแฟนของนาคน้อยรอชมการชูนิ้วว่างวดนี้จะเห็นเลขเด็ด และนาคน้อยได้ส่องขันน้ำมนต์พิธีด้วย การส่องแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ส่วนนาคน้อยส่องบอกว่าเห็นน้ำตาเทียนเป็นเลข 80,08 บางคนเห็นเลขสามตัว 37 ตามความเชื่อของคนชอบตัวเลข

ยังมืดแปดด้าน ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หายปริศนา ตำรวจให้หาในเครื่องซักผ้า

จากกรณีที่ นายสมภพ อายุ 50 ปี ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ขัยกฤต เตารัตน์ สว.เวร สภ.เมือง ระยอง ว่าฉลากกินแบ่งหายไปทั้งหมด 3 ใบ และพบว่าสลากหมายเลข 340388 ตรงกับผลการออกฉลากรางวัลที่1 งวดวันที่ 16 ก.ย.62 จึงนำหลักฐานรูปถ่ายในโทรศัพท์มือถือที่ได้ถ่ายทั้ง 3 ใบ เอาไว้หลังซื้อ

นายสมภพ ให้การว่าเมื่อวันที่ 15 ก.ย.62 ได้ไปนั่งดื่มกาแฟ ที่ร้านกาแฟสด ริมหาดสุชาดา ต.มาบตาพุด ได้มีพ่อค้าลอตเตอรี่มาขาย จึงได้ซื้อไว้ทั้งหมด 3 ใบ พร้อมกับถ่ายรูปไว้แล้วก็กลับบ้านพักโดยเก็บลอตเตอรี่ทั้ง 3 ใบไว้ ในกระเป๋าหลังขวาของกางเกง ก่อนจะถอดแขวนไว้ในบ้านพัก โดยมีอยู่กับภรรยาและบุตร จนกระทั่งผลสลากออกมาจึงรู้ว่าถูกรางวัล จึงรีบกลับไปค้นหาแต่ปรากฎว่าหายไปแล้วไม่อยู่ในกระเป๋า

>> เส้นทางเศรษฐีสะดุด หนุ่มโรงงานแจ้งความลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หาย เหลือเพียงรูปถ่าย

เกี่ยวกับคืบหน้าเรื่องดังกล่าว (18 ก.ย.) พ.ต.ต.ชัยกฤต เตารัตน์ สว.เวร สภ.เมืองระยอง ได้เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบได้ลงไปตรวจสอบที่ร้านกาแฟสดด้วงน้อย จากการสอบถามพนักงานในร้านกาแฟ ที่อยู่ในวันที่ 15 ก.ย.62 ได้ยืนยันว่านายสมภพได้ซื้อฉลากจำนวน 3 ใบ จริง ซื้อจากพ่อค้าเร่ที่นำสลากเข้ามาขายในร้าน และ ได้มีการถ่ายรูปด้วยมือถือในร้านกาแฟ แต่ไม่ทราบว่ามีเลขใดบ้าง

พ.ต.ต.ขัยกฤต สารวัตรเวรเจ้าของคดี ได้ กล่าวว่า หลังจากการตรวจสอบ และสอบสวนพยาน คาดว่าอาจจะมีการซื้อและถูกสลากรางวัลที่ 1 จริง เพราะมีรูปถ่ายเป็นหลักฐานยืนยันว่าสลาก 1 ใน 3 ตรงกับรางวัลที่ 1 ส่วนกรณีที่อ้างว่าหายไป มีการสันนิษฐานไว้หลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นที่อาจตกหาย ระหว่างทางกลับบ้านจากร้านกาแฟถึงบ้าน และยังพบว่าภรรยานำกางเกงที่นายสมภพระบุว่าใส่ลอตเตอรี่ทั้ง 3 ใบไว้ไปซักแล้ว จึงอาจเป็นไปได้ว่า อาจจะหลุดมาในเครื่องปั่นขณะซักกางเกง จนทำให้สลากทั้ง 3 ใบ เปื่อยยุ่ยไป ซึ่งได้ให้นายสมภพไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่ามีเศษของสลากอยู่ภายในเครื่องก็จบ เพราะเท่ากับว่าถูกปั่นจนเปื่อยยุ่ยไปแล้ว ส่วนเรื่องการประสานทางกองสลากขณะนี้ยังรอผลการตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน จนมั่นใจว่าหายไปจริงจึงจะประสานอายัดไป

ด้าน นายสมภพ หนุ่มใหญ่ผู้โชคร้าย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า ตนเองได้ตรวจสอบที่เครื่องซักผ้าแล้วก็ไม่พบ หลังมานั่งสงบสติแล้วนึกย้อนไปในวันที่ออกจากร้านกาแฟ ทางตนเองได้เก็บสลากทั้ง 3 ใบ ไว้กระเป๋าหลังขวาโดยเสียบโทรศัพท์มือถือไปด้วย พอจะขึ้นรถก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าจึงอาจเป็นไปได้ว่าสลากทั้ง 3 ใบ อาจจะหล่นขณะที่ดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เพราะหลังจากนั้นก็ตรงกลับมาบ้านและเข้าบ้านพักทันที โดยเข้าไปนอนพักบนที่นอน ก่อนจะถอดกางเกงไว้ในห้องนอน

จนกระทั่งมาค้นหาตอนที่ทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 แต่ก็ไม่พบ จึงอาจเป็นไปได้มากที่สุดว่าหล่นขณะดึงโทรศัพท์ออกมา จึงวอนขอให้คนที่เจอนำมาคืน เพราะมีหลักฐานยืนยันว่าเป็นของตนเองทั้งรูปถ่ายและพยานบุคคลที่เห็นว่าซื้อฉลากจริง ใครเอาไปถือเป็นการลักทรัพย์

หนุ่มใหญ่จุดธูปสาบานลอตเตอรี่หายจริง ลั่นใครเจอแล้วเอามาคืน แบ่งเงินรางวัลให้ 1 ล้าน

จากกรณีหนุ่มใหญ่ ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 กันยายน 2562 จากแม่ค้าเร่ขายสลาก ที่บริเวณร้านกาแฟด้วงน้อย บายริมทะเล แล้วถูกรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 6 ล้านบาท แต่ปรากฏว่า สลากใบดังกล่าวได้หายไป จึงนำภาพถ่ายที่บันทึกไว้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ พ.ต.ต.ชัยกฤต เตารัตน์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ลงพื้นตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังนายสมภพ อายุ 50 ปี ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ที่ซื้อกับคนเดินมาขาย ที่หาดสุชาดา ขณะนั่งรับประทานอาหารในร้านกาแฟได้หายไป แล้วขอให้ตำรวจทำเรื่องอายัดสลากใบดังกล่าวกับกองสลากฯ

นายสมภพ เล่าว่า เมื่อไปค้นหาสลากใบดังกล่าว ปรากฏว่าสลากได้หายไป จึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนในเบื้องต้น แต่ภายหลังเกิดประเด็นดราม่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้นายสมภพ ออกมายืนยันว่าคำให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นความจริง ประเด็นของสังคมที่ถูกวิจารณ์นั้นตนไม่สนใจ เนื่องจากตนเป็นคนมองโลกในแง่ของธรรมะ และไม่รู้ว่าจะสร้างประเด็นทำไม ที่ไปแจ้งความก็คิดว่าไปทำตามกฎหมายเท่านั้นในเรื่องของเอกสารสำคัญที่หายไป ไม่คิดว่าจะเป็นข่าวได้ขนาดนี้

ต่อมา นายสมภพ จึงขอจุดธูปบนบานศาลกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทาง บริเวณร้านกาแฟที่ซื้อสลากมา ต่อหน้าสื่อมวลชนหลายสำนักเพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ ว่า สลากได้หายไปจริง หากสิ่งที่บนบานไว้เป็นเรื่องโกหก ก็ขอให้มีอันเป็นไปใน 3 วัน 7 วัน พร้อมกันนี้ ได้ขอประกาศให้เงินรางวัล 1 ล้านบาท หากใครพบเจอสลากฯ หมายเลข งวดวันที่ 16 กันยายน 2562 หมายเลข 340388 งวดที่ 36 ชุดที่ 40 แล้วนำมาส่งคืน

เบื้องต้นขณะนี้ ทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.จุรี อายุ 27 ปี เจ้าของร้านกาแฟ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ว่านายสมภพ ได้ซื้อสลากใบดังกล่าวจริง ซึ่งหลังจากซื้อสลากแล้วก็ได้มานั่งถ่ายรูปสลากที่โต๊ะภายในร้าน

แตกตื่นทั้งโรงเรียน งูเหลือมโผล่ฝากระโปรงรถ ครู-ผู้ปกครองแห่ถ่ายรูปเลขทะเบียน

นักเรียนเห็นงูเหลือมโผล่ฝากระโปรงรถเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร จ.เลย ครูและผู้ปกครองรีบมามุมถ่ายรูปและเลขทะเบียนรถ หวังเอาไปเสี่ยงโชค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (13 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ศูนย์วิทยุสว่างคีรีธรรม จ.เลย ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือมีงูเหลือมโผล่ในฝากระโปรง ภายในลานจอดรถโรงเรียนเมืองเลย เมื่อได้รับแจ้งประสานไปยังกู้ภัยสว่างฯ จุดเมือง เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เงิน จอดอยู่ลานจอดรถของโรงเรียน พบครูและผู้ปกครองเด็กจำนวนหนึ่งมุงดู ส่วนเด็กนักเรียนให้กลับไปห้องเรียนแล้วเพื่อความปลอดภัย

กู้ภัยฯ ใช้อุปกรณ์จับงู เมื่อเปิดฝากระโปรงรถดูพบงูเหลือยาวกว่า 1 เมตร ซุกอยู่หน้ากระจังรถ และโผล่หัวออกม ใช้เวลากว่า 10 นาที จนสามารถจับงูออกมาได้ ครูและผู้ปกครองต่างถ่ายรูปและเลขทะเบียนรถ 524 เพื่อมีโชคถูกหวยงวดวันที่ 16 ก.ย.62 ส่วนกู้ภัยฯ นำงูเหลิอมไปปล่อยป่าคืนสู่ธรรมชาติ

จากการสอบถาม นางสาวศิริรัตน์ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร จ.เลย เจ้าของรถยังอยู่ในอาการที่ตกใจ เล่าว่า ตนเองขับรถมาจากสำนักงานเกษตร จ.เลย มาทำธุระบริเวณโรงเรียนเมืองเลย ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถของโรงเรียนและไปทำธุระ

เมื่อกลับมาเห็นเด็กนักเรียนตะโกนบอกว่าเห็นงูโผล่มาจากใต้ฝากระโปรงรถ จึงรีบแจ้งกู้ภัยสว่างคีรีธรรมมาช่วย รู้สึกโล่งอกที่จับงูออกไปได้ ก็ไม่รู้ว่างูมาจากไหน

แม่บ้านยกมือไหว้ขอโชค งูเหลือมยักษ์ยาวเกือบ 5 เมตร เลื้อยเขมือบแมวคอนโด

งูเหลือมยักษ์ยาวเกือบ 5 เมตร เข้าไปขโมยกินแมวในคอนโด ก่อนหนีไปซ่อนในกองขยะ กู้ภัยช่วยจับปล่อยคืนสู่ธรรมชาติบนดอยสุเทพ เผยตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับมา น้ำหนักกว่า 20 กิโลกรัม แม่บ้านถึงกับยกมือไหว้ขอโชคลาภ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 ก.ย.) เจ้าหน้าที่กู้ภัย เทศบาลนครเชียงใหม่ นำอุปกรณ์เข้าไปจับงูเหลือมตัวหนึ่ง ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้แผ่นคอนกรีตในกองขยะ บริเวณคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่ง ย่านถนนห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อเปิดออกมาถึงกับตะลึง เพราะงูตัวนี้มีความยาวกว่า 5 เมตร คาดมีน้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าตัวใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เคยจับมา

ใช้เวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะจับมันใส่ในกระสอบได้ เพราะมันไม่ยอมง่ายๆ พยายามขดตัวรัดท่อนเหล็กที่ใช้จับ และมันยังมีแรงมากตามขนาดของตัวมัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกแรงเหนื่อย ขณะที่แม่บ้านคอนโดฯ ที่เห็นพากันตื่นตกใจ บางคนถึงกับยกมือไหว้พร้อมขอโชคลาภให้ถูกหวย

จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่กู้ภัย ระบุว่า ได้รับแจ้งจากแม่บ้านคอนโดมีเนียมขอให้ไปช่วยจับงู หลังพบว่ามีแมวถูกงูรัด วิ่งหนีไปตายที่หน้าคอนโด ส่วนงูเหลือมเมื่อเห็นแม่บ้าน ได้เลื้อยไปซ่อนตัวอยู่ในกองขยะ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาจับ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกว่าช่วงหน้าฝนมักมีงูเหลือมออกจากป่าไปหากินตามบ้านเรือนประชาชน และได้รับแจ้งให้ไปช่วยจับงูวันละหลายครั้ง พร้อมฝากเตือนไม่ควรทำร้าย หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปจับปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

คอหวยคำชะโนดโล่งใจ ต้นมะเดื่อยักษ์ไปขอโชคได้แล้วหลังเจอน้ำท่วมนานนับสัปดาห์

ต้นมะเดื่อยักษ์ คำชะโนด ถูกน้ำท่วมมานับสัปดาห์ ล่าสุด สามารถเดินเข้าส่องหาเลขเด็ดได้แล้ว ขณะที่ลานบวงสรวงมีพิธีรำแก้บนหลังถูกหวยทั้งหมู่บ้าน 3 งวดซ้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. บริเวณสะพานรอบต้นมะเดื่อยักษ์ อายุนับร้อยปี ภายในเกาะคำชะโนด วังนาคินทร์ ดินแดนพญานาคราชพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา บ้านโนนเมือง หมู่ที่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี วันนี้ตรงกับวันหยุดนักท่องท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้พ่อปู่แม่ย่ากันอย่างหนาตา

หลังจากเข้ากราบไหว้ปู่บนศาลปู่เสร็จแล้วก็ไม่ผิดหวัง สามารถเดินตามสะพานไม้เข้าไปภายในโคนมะเดื่อยักษ์ ที่ถูกน้ำท่วมมานับสัปดาห์ ทางกรรมการบริหารจัดการเร่งสูบน้ำออก ถึงแม้ว่าบริเวณสะพานรอบต้นมะเดื่อยักษ์ สามารถเดินเข้าส่องหาเลขเด็ดลูบหาเลขเด็ดเพียงครึ่งเดียว ส่วนหนึ่งน้ำยังท่วมสูงในระดับจากระดับพื้นดินประมาณ 75 เซนติเมตร เชื่อว่าในอีกไม่กี่วันน้ำคงจะลดเข้าสู่ภาวะปกติ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบตัวเลข ก่อนเข้าสะพานต้นมะเดื่อยักษ์มีขันน้ำมนต์ตั้งอยู่ นักท่องเที่ยวก็แห่ใช้โทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปไว้กลับไปส่องที่บ้าน ว่าน้ำตาเทียนเป็นเลขอะไร บางคนที่ส่องแล้วบอกว่าเห็นน้ำตาเทียนเป็นเลข 50,05,20,02, 53 และ 35

ขณะที่ คุณยายท่านหนึ่ง ส่องหาเลขตามรากมะเดื่อยักษ์อย่างลำบากเพราะน้ำยังท่วม ยายบอกว่าเห็นตัวเลขชัดมากที่รากมะเดื่อคือ 90,09 พร้อมกับหันมาบอกเพื่อนร่วมเดินทาง

สำหรับที่ลานบวงสรวงมีการรำบวงสรวงตามปกติ แต่ที่พิเศษคือวันนี้มีชาวบ้านจากทมนาดี ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี นั่งรถบัสจำนวน 4 คัน มาเกือบทั้งหมู่บ้าน มาทำโรงทานและมารำแก้บนที่ลานบวงสรวง เนื่องจากถูกหวยติดต่อกันมา 3 งวดแล้ว นำโดย น.ส.ชลธิชา หรือ น้องเน็ต ผู้ได้โชคและโชคดีมากกว่าทุกคน

โดย น.ส.ชลธิชา หรือ น้องเน็ต เป็นผู้นำโชคเข้าหมู่บ้าน หลังมาขอเลขเด็ดที่คำชะโนด ด้วยการมาลูบหาเลขเด็ดที่ต้นมะเดื่อยักษ์ ทำเอาชาวบ้านถูกติดต่อกันมาแล้วทั้งหมู่บ้าน จึงมารำแก้บนให้ปู่ศรีสุทโธเพื่อความเป็นสิริมงคลและขอโชคลาภต่อ

ต้นกวักมรกตให้โชค 4 งวดติด เจ้าของร้านชำเฮ! หลานสาวถูกเลขท้าย 20 เกือบแสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (2 ส.ค.) สำหรับต้นกวักมรกตที่ตั้งอยู่หน้าร้านขายของชำของ นางเทียนบุญยาพร อายุ 55 ปี พักอยู่ที่ ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง บริเวณข้างสวนสุขภาพเมืองบ้านฉาง หลังผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 ก.ย. 62 ผลรางวัลเลขท้ายสองตัว 20 ตรงๆ ชาวบ้านฉางดวงเฮงถูกรางวัลไปตามๆ กันอีกครั้ง

จากการสอบถาม นางเทียนบุญยาพร เจ้าของร้านชำ เล่าว่า หลังจากที่เป็นข่าวเกี่ยวกับต้นกวักมรกต ต้นไม้มงคลที่ชาวบ้านทั่วไปนิยมปลูกไว้เพื่อกวักทรัพย์กวักโชคเข้าบ้านซึ่งที่หน้าร้านของตนนั้นปลูกไว้มานานแล้วก็ให้โชคมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถูกติดต่อกันเป็นจำนวนถึงงวดที่ 4 แล้ว

ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากเป็นข่าวออกไปปรากฏว่านักเสี่ยงโชคต่างนำภาพข่าวไปตีเลขต่างๆ นานา และหลานของตนที่อยู่ต่างจังหวัดโทรมาบอกว่าเห็นเลขป้าย 20 ที่อยู่ติดกับกระถางต้นกวักมรกต ก็ไปซื้อเลข 20 มา ปรากฏว่าออก 20 ตรงๆ ได้รับรางวัลกว่า 6 หมื่นบาท

รวมทั้งคนรู้จักที่ทราบข่าวก็นำไปซื้อตามกันหลายคน หลังจากที่หวยออกก็เดินทางมาบอกว่าซื้อตามและถูกจริงๆ ส่วนตนก็นำลักษณะของดอกที่ขดเป็นวงกลมคล้ายเลข 8 ส่วน 7 ได้มาจากความเชื่อว่าต้นไม้เป็นเลข 7 จึงไปซื้อ 87 และซื้อ 20 ไว้เช่นกัน

ส่วนต้นกวักมรกตนิยมนำมาปลูกภายในบริเวณบ้านเพราะถือว่าเป็นไม้มงคลช่วยเรียกทรัพย์ ส่วนการดูแลรักษายังเลี้ยงง่ายเพราะไม่ต้องรดน้ำบ่อยๆ ต้นไม้ชนิดนี้จึงดูเหมือนมีมนต์เสน่ห์ของต้นกวักมรกตเรียกทรัพย์ ดึงดูดโชคเข้าบ้านจนกลายเป็นต้นไม้ที่มีคนปลูกจำนวนมากอย่างเช่นทุกวันนี้นั่นเอง