สาวมีเงินแค่ 100 ชวนเพื่อนบ้านซื้อลอตเตอรี่ เฮลั่นถูกรางวัลที่ 1 ทั้งคู่

สาวรับจ้างมีเงินแค่ 100 บาท ชวนเพื่อนบ้านซื้อสลากคนละใบถูกรางวัลที่ 1 รับคนละ 6 ล้านบาท

วันนี้ 16 พ.ย.62 ร.ต.ท สฤษดิ์ชัย ตะริสูนย์ รองสารวัตรเวร(สอบสวน) สภเมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้ง โดย ผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลเข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน เพื่อเป็นหลักฐานว่า เป็นผู้ถูกหวยรางวัลที่ 1 งวด ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2562 งวดที่ 14 ชุดที่ 41 หมายเลข 0 1 7 2 2 3 โดยผู้ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 คน มาจากหมู่บ้านหัวสุ่ม หมู่ 2 ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมืองปราจีนบุรี

รายแรกเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 30 ปี (ขอสงวนนาม-นาสกุล) มาพร้อมกับสามี มาจากร้อยเอ็ด มารับจ้างทำต้นไม้ ไม้ดอกไม้ประดับในหมู่บ้านดงบัง -บ้านโคกมะกอก ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ไม่ประสงค์จะเปิด เผยชื่อ ขอสงวนชื่อ-นามสกุล ได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข ตรงกับ วันเกิดตัวเอง เพราะว่ามีเงินอยู่ร้อยเดียว เลยเรียก ให้ นายเยื้อน หมวดดี อายุ 59 ปี เลขที่ 63/1 หมู่ 2 ต. ดงขี้เหล็ก อ. เมือง จ. ปราจีนบุรี ให้ช่วย ซื้อด้วยกัน

โดยถามว่าลุงเอาหวยหรือไม่ แบ่งคนละใบ เลยพากันถูกรางวัลที่ 1 คนละ 1ใบ เพราะ ตนเองมีเงินแค่ร้อยบาทเท่านั้น รับเงินคนละ 6 ล้านบาท หญิงสาวแจ้ง ว่า หลังโชคดีถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล จะนำเงินไปปลูกบ้านใหม่ให้แม่ ในภาคอีสาน

ด้าน ผู้โชคดีรายที่ 2 นายเยื้อน หมวดดี ได้พาเพื่อนบ้านมาเต็มคันรถกระบะ มาลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี เช่นกัน โดยนายเยื้อนเป็นเพื่อนบ้านกับหญิงที่ชวนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว

เก๋งชนดะทั้งจอมปลวก-ทำท่อประปาแตก ทิ้งทะเบียนป้ายแดงให้ดูต่างหน้า

เก๋งชนดะทั้งจอมปลวก ทำท่อประปาแตก ทิ้งทะเบียนป้ายแดงและซากกันชนให้ดูต่างหน้า

 (4 พ.ย.) ร.ต.อ.พิสิฐ บุญมี รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยนาท ได้รับแจ้ง เกิดเหตุรถเก๋งชนใกล้รั้วบ้านประชาชน ที่บริเวณหมู่ 3 ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท มีสิ่งของเสียหาย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 3 ต.ธรรมามูล พบมาตรน้ำถูกชนเสียหายท่อน้ำประปาแตก เสาลายข้างถนนล้ม 1 ต้น และพบชิ้นส่วนกันชนหน้ารถ กระจังหน้ารถ ทะเบียนรถป้ายแดง 1070 ชัยนาท ตกอยู่บริเวณหน้าบ้านผู้เสียหาย

แต่รถคันก่อเหตุได้หลบหนีไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บชิ้นส่วนของรถคันที่ก่อเหตุไปที่ สภ.เมืองชัยนาท เพื่อตรวจสอบติดตามหาเจ้าของรถต่อไป และคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี

จากการสอบถาม นายอนุชา อายุ 38 ปี อยู่บ้านตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุกำลังอยู่ในบ้านได้ยินเสียงดังเหมือนรถชนอะไร จึงออกมาดูเห็นรถเก๋งมิตซูบิชิ มิราจ สีขาว ป้ายแดง ชนเข้าที่ท่อน้ำประปาแล้วมาชนกับจอมปลวก ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านของตน จากนั้นก็พยายามเร่งเครื่องเพื่อถอยรถออกอย่างรวดเร็ว แล้วขับหนีไปทางวัดธรรมามูล แต่มีชิ้นส่วน อุปกรณ์ของรถได้หลุดออกมากองหน้าบ้านที่เกิดเหตุ

ด้าน นางนฤมน อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน เผยว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนอนเล่นอยู่ในบ้านได้ยินเสียงรถชนที่หน้าบ้านจึงออกมาดู เห็นว่าเป็นรถเก๋งสีขาว ผู้ชายขับคาดว่าจะเมาไม่ลงมาดูเลย หลังจากชนแล้วก็หนีไป มีสิ่งของที่ได้รับความเสียหายจากรถเก๋งพุ่งเข้าชนครั้งนี้ คือมาตรวัดน้ำถูกรถชนขาดไปเลย ท่อประปาแตกต้องเรียกให้ช่างมาซ่อม มูลค่ากว่า 300 บาท แต่ช่างซ่อมประปาไม่คิดเงินค่าแรง

ฮือฮา! หินสีดำโผล่กลางสวนยางนับหมื่นชิ้น หนุ่มเจ้าของที่เชื่อเป็นเหล็กไหล

หนุ่มเชียงราย วัย 36 ปี ขุดพบหินประหลาดสีดำนับหมื่นชิ้นในสวนยางพารา เชื่อเป็นเหล็กไหล เผยมีคนมาเข้าฝันบอกให้ขุดขึ้นมาให้หมด

(29 ต.ค.) ที่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 4 บ้านทุ่งเจ้า ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของ นายบรรเลง บุญหลี อายุ 36 ปี โดยพบเป็นบ้าน 2 ชั้น เป็นคอนกรีตผสมไม้ โดยภายในบริเวณบ้านพบมีชาวบ้านจำนวนมากพากันไปดูหินประหลาดสีดำ วางเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ซึ่งนายบรรเลง เจ้าของหินดังกล่าว ได้นำออกมาทำความสะอาดและบูชาตามความเชื่อ

นายบรรเลง เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้กลับมาอยู่ที่บ้าน และทำสวนยางพาราที่พ่อกับแม่ได้ปลูกไว้เมื่อ 14 ปีที่แล้วในที่ดินของครอบครัว ซึ่งห่างจากบ้านพักประมาณ 3 กิโลเมตร

โดยในขณะที่ตนทำสวนได้พบหินลักษณะประหลาดขนาดเล็กตกอยู่ที่พื้น จึงเก็บมาไว้ดูที่บ้านและต่อมาพบจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตนเองก็ได้เก็บสะสมและนำมาทำความสะอาด เมื่อไปศึกษาดูในอินเตอร์เน็ต บางส่วนก็พบว่ามีลักษณะเหมือนหินอุกาบาต บางคนก็บอกว่าคล้ายกับเหล็กไหล เมื่อนำมาให้ชาวบ้านดูก็ไม่มีใครสนใจ

นายบรรเลง เล่าต่อด้วยว่า อยู่มาวันหนึ่งตนเองฝันว่ามีคนมาบอกให้ไปนำสิ่งที่อยู่ในที่ดินออกมาให้หมด ตนเองจึงไปจุดธูปอธิษฐานเพื่อขอโชคลาภ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงทำการขุดพื้นดินบริเวณสวนยางพาราที่พบหินประหลาด โดยเมื่อขุดลงไปลึกประมาณ 1 เมตร ก็พบหินชนิดเดียวกัน มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ รูปร่างลักษณะแตกต่างกันไป บางชิ้นก็เหมือนพระพุทธรูป บ้างชิ้นก็เหมือนรูปร่างของเกจิชื่อดัง รวมกันมากกว่า 10,000 ชิ้น จึงเก็บมาไว้ที่บ้าน

“ญาติผู้ใหญ่ได้นำหินดำขนาดเล็กดังกล่าวไปตรวจที่กรุงเทพฯ และได้แจ้งมาว่ามีผู้รู้บอกว่าเป็นขี้เหล็กไหล ดังนั้นตนจึงอยากให้มีการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเหล็กไหล หากพบว่าเป็นเหล็กไหลจริง ก็จะนำมอบให้เป็นสมบัติของชาติ และถ้าหากไม่ใช่ตนก็จะเก็บเอาไว้เอง และสิ่งที่พบนี้ไม่ได้สร้างเรื่องขึ้นมาเอง หากมีความผิดพลาดตนจะรับผิดชอบเอาไว้เอง” นายบรรเลง กล่าว

ด้าน ชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน เล่าว่า ได้ยินเรื่องราวที่นายบรรเลงเก็บหินดำดังกล่าวมานานกว่า 1 ปี และนายบรรเทิงได้นำชิ้นส่วนหินดำมาให้ตน 1 ชิ้น ตนก็เก็บไว้ที่บ้านและก็บูชาตามความเชื่อ ที่ผ่านมาก็ได้ขอโชคลาภก็มีถูกหวยบ้าง ส่วนใครจะเชื่อไม่เชื่ออย่างไรก็เป็นสิทธิของแต่ของละคน ไม่สามารถไปห้ามความคิดกันได้ และตนก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปตรวจเพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงต่อไป

แห่ขอหวย สุนัขคลอดลูกแปลก มีงวง มีงา แต่ไม่มีตาและจมูก

ชาวบ้านแตกตื่น สุนัขพันธุ์ไทยคลอดลูกออกมา 4 ตัว มี 2 ตัวมีลักษณะแตกต่างจากสุนัขทั่วไป ตัวแรกเพศผู้มีงวงคล้ายช้างแต่ไม่มีจมูก อีกตัวเพศเมียลักษณะคล้ายงา เจ้าของเชื่อจะมาให้โชค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (27 ต.ค.) ได้รับแจ้งจาก นายศิริกล้า แก้วสุทอ กรรมการผู้จัดการ หจก.ก.ศิริวิศวก่อสร้างว่า ที่แคมป์คนงานก่อสร้างพระพุทธเมตตาประชาสันต์ บ.บ่อแก้ว ต.บ่อแก้ว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร มีสุนัขพันธุ์ไทย คลอดลูกออกมา 4 ตัว โดย 2 ตัวแรกมีลักษณะเป็นปกติ

แต่ 2 ตัวหลังสีน้ำตาลอ่อน มีลักษณะผิดแปลกจากลูกสุนัขทั่วไป คือตัวแรกเพศผู้ตัวโต มีก้อนเนื้อยื่นออกมาทางปากคล้ายงวงช้าง ไม่มีตาไม่มีจมูก มีเพียงหู 2 ข้าง ตัวที่ 2 เล็กกว่า ลักษณะคล้ายมีงาสองข้างออกมาจากปากขนาดเล็ก แต่ไม่มีหู ตา และจมูก คลอดออกมาไม่นานลูกสุนัขทั้งสองก็เสียชีวิต

สร้างความประหลาดใจแก่ชาวบ้าน แห่กันมาชมไม่ขาดสาย และที่ขาดไม่ได้คือนำธูป เทียน มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอโชคลาภ ซึ่งต่างก็ตีเป็นเลขต่างๆ นานา แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล

นางคำพันธุ์ ไพคำนาม อายุ 43 ปี เจ้าของสุขและเป็นคนงานในแคมป์ กล่าวว่า ตนมาทำงานในแคมป์นาน 3 เดือน โดยนำสุนัขมาด้วย ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา สุนัขของตนได้คลอดลูกครอกที่ 2 ออกมาได้ 4 ตัว โดย 2 ตัวเป็นปกติ แต่ 2 ตัว มีลักษณะดังกล่าว จึงได้ไปตามคนมาดู จนเป็นที่กล่าวขวัญและมีชาวบ้านแห่กันมาดูไม่ขาดสาย บ้างก็ให้สตาฟเก็บไว้ เผื่อมีคนต้องการชม

จนกระทั่งมีการนิมนต์พระมาสวดเพื่อส่งดวงวิญญาณของสุนัขทั้งสองให้ไปยังสัมปรายภพ ก่อนหน้าที่สุนัขจะคลอด ตนฝันว่ามีคนเอาข้าวสารมาให้ไม่ขาดสาย ท่านต้องการเพียงเทียน ดอกไม้ และผ้าสีขาวเท่านั้น ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะมีโชคก็ได้ ส่วนสามีของตนหลังจากสุนัขคลอด 4 ตัวแล้ว ยังฝันว่าสุนัขตัวเดิมคลอดมาเพิ่มอีก 14 ตัว อาจมีโชคใหญ่ในครั้งนี้ก็ได้

แห่ต้นตะเคียนยักษ์รอบหมู่บ้าน หลังให้โชคถูกหวยติดต่อกันมาหลายเดือน

ชาวบ้านโคราชแห่ต้นตะเคียนยักษ์รอบหมู่บ้าน หลังให้โชคถูกหวยทุกงวด เชื่อบารมีครอบครัวแม่ตะเคียนทอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (25 ต.ค.) จากกรณีที่ชาวบ้านได้มีการขุดพบต้นตะเคียนขนาดใหญ่ จำนวน 15 ต้น มีความยาวกว่า 5 เมตร 3 เมตร 2 เมตร ภายในคลองน้ำหลังวัดอุดมธัญญาวาส บ้านขาคีม หมู่ที่ 2 ตำบลหลุมข้าว อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้ช่วยกันนำกิ่งก้านต้นตะเคียนยักษ์ มาเก็บรักษาไว้ในวัดอุดมธัญญาวาสนั้น

ชาวบ้านได้นำต้นตะเคียนขึ้นมาประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ โดยใช้ผ้าขาวมาห่อหุ้มต้นตะเคียนไว้ เพราะเชื่อว่าเป็นครอบครัวลูกหลานของเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก และเจ้าแม่สร้อยดอกปีบ ที่ขุดพบเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ซึ่งจากการขุดพบในครั้งนั้น ชาวบ้านที่มากราบไหว้ขอโชคลาภ และมาขูดหาเลขบริเวณรอบต้นตะเคียนเพื่อนำไปเสี่ยงโชค ปรากฏว่า ถูกหวยเกือบทั้งหมู่บ้าน จึงได้พากันว่าจ้างลิเกคณะดังของเมืองโคราช มารำแก้บนเจ้าแม่ตะเคียน โดยเปิดให้ชาวบ้านมาชมการแสดงฟรี จำนวน 7 วัน 7 คืน พ่อค้าแม่ค้าจึงแห่มาตั้งร้านขายของภายในวัดกันเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศคึกคักเหมือนกับจัดงานวัด

ล่าสุด ชาวบ้านได้นำต้นตะเคียนยักษ์ที่ใหญ่ที่สุด และเป็นหนึ่งในบรรดาต้นตะเคียนที่ขุดพบจำนวน 15 ต้น มาห่มผ้าขาวตกแต่งบายศรีแห่รอบหมู่บ้าน เพื่อชื่นชมบารมีของแม่ตะเคียน ซึ่งนำความสุขมาให้กับคนในหมู่บ้าน หลังจากชาวบ้านถูกหวยเกือบทุกงวดติดต่อกันหลายเดือน

อีกทั้งได้นำร่างทรงมาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณแม่ตะเคียนตามความเชื่อของชาวบ้าน เพื่อมาคอยปกปักรักษาให้คนในหมู่บ้านให้มีความสงบสุข

จอมปลวกประหลาดคล้ายคนนั่งกวักมือ คอหวยฮือฮา ตัวเลขโผล่นูนขึ้นมาชัดๆ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีคนพบจอมปลวกรูปร่างประหลาด คล้ายกับคนนั่งกวักมือหันหน้าเข้าหาสำนักงานเกษตรอำเภอรัตนบุรี อยู่ที่บริเวณข้างกำแพงภายในสำนักงานเกษตรอำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์  โดยพบอยู่ใกล้ๆกับประตูทางเข้าสำนักงานด้านขวามือ โดยจอมปลวกมีความสูงประมาณ 1 เมตร  ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบยังสำนักงานเกษตรอำเภอรัตนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 12  ถนนสายรัตนบุรี – ทับใหญ่ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์

เมื่อเดินทางไปถึงสำนักงานเกษตรอำเภอรัตนบุรี ก็ได้พบกับ นายจิตกรวัฒน์ สาแก้ว ซึ่งเป็นเกษตรอำเภอ อยู่ที่สำนักงานคนเดียว เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดชดเชย และได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยง ตนได้เข้ามาที่สำนักงานเพื่อที่จะมารอรับไม้เก่าที่ชาวบ้านบริจาคและขนมาให้ เพื่อที่จะนำไปสร้างเป็นบ้านชนเผ่า (ลาว) ในงานช้างจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งในปีนี้ทางอำเภอรัตนบุรีรับเป็นผู้ดำเนินการ โดยให้ทางสำนักงานเกษตรอำเภอรัตนบุรีเป็นผู้จัดสร้างให้ และในขณะที่ตนกำลังเดินดูสถานที่เพื่อที่จะหาที่เก็บไม้ ก็เหลือบไปเห็นจอมปลวกที่อยู่ริมกำแพงของสำนักงานใกล้กับประตูทางเข้าสำนักงาน ตนจึงเข้าไปดูใกล้ๆ เนื่องจากรู้สึกแปลกใจที่วันนี้ทำไมบังเอิญมองเห็น ทั้งๆ ที่จอมปลวกนี้น่าจะมีมานานแล้ว

และเมื่อเข้ามาดูใกล้ๆ  ก็พบว่าที่บริเวณจอมปลวกคล้ายๆ กับมือคนยกขึ้นในลักษณะกวักมือ มีตัวเลขนูนขึ้นมาอย่างชัดเจน ซึ่งน่าจะเป็นเส้นทางเดินของปลวก ซึ่งตนมองเห็นเป็นเลข 84 จึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย แล้วก็โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว 

หลังจากที่ข่าวนี้ได้มีการแชร์ผ่านเฟซบุ๊กกันต่อๆ ไป ก็ได้มีชาวบ้านที่ทราบข่าว ได้เดินทางมาขอดูกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งชาวบ้านที่ขนไม้มาบริจาคให้กับสำนักงานเกษตรอำเภอในวันนี้ด้วย บางคนก็บอกว่าคล้ายกับกุมารทองยืนกวักมือ โดยเฉพาะตัวเลขที่ปูดนูนขึ้นมาที่บริเวณจอมปลวกที่มีรูปร่างคล้ายกับแขนคนยกขึ้นกวักมือ ซึ่งส่วนใหญ่มองเห็นเป็นเลข 84  และ 848 บางส่วนก็เห็นเป็นเลข 88 และบางคนก็ตีเป็นว่า หัวหรือมือก็น่าจะเป็น 5 ซึ่งก็น่าจะเป็นเลข 584  โดยต่างก็บอกว่า แล้วแต่ดวงของใครของมันที่จะนำเอาไปเสี่ยงโชคเอาเองในงวดวันที่ 16 ตุลาคม 2562 ที่จะถึงนี้

คอหวยจับตา งูหลามใหญ่เลื้อยตกบ่อบาดาล แช่น้ำจนตัวซีดนานกว่า 3 วัน

(18 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองไผ่ อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีงูขนาดใหญ่เลื้อยตกลงไปในบ่อน้ำลึก ซึ่งภายในมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก โดยงูตัวดังกล่าวเริ่มมีสภาพอ่อนแรง ลำตัวเริ่มซีด คาดตกน้ำมาแล้วหลายวัน จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดหนองไผ่ ให้จัดเตรียมอุปกรณ์จับสัตว์เลื้อยคลาน

ที่เกิดเหตุ บริเวณหลังบ้านเลขที่ 54 หมู่ 1 ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ พบบ่อน้ำบาดาลเก่า ทำด้วยวงท่อซีเมนต์ ฝังดินเรียงกันทั้งหมด 5 บ่อ โดย 4 บ่อแรกถูกดินถมจนเต็ม แต่บ่อสุดท้าย พบว่ายังคงมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อก้มมองลงไปในบ่อพบงูขนาดใหญ่ ลำตัวสีเหลือง สลับน้ำตาล-ดำ กำลังพยายามเลื้อยวนไปมาเพื่อหาทางขึ้นมาปากบ่อ แต่พอเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์จับ ก็รีบมุดน้ำหนีลงไปก้นบ่อทันที

โดยเจ้าหน้าที่เฝ้ารออยู่ปากบ่อนานเกือบครึ่งชั่วโมง งูตัวดังกล่าวก็ไม่มีทีท่าจะโผล่ลอยน้ำขึ้นมาให้จับสักที จึงตัดสินใจหาตะขอเหล็กมัดใส่ปลายไม้ พยายามควานหาตัวที่ก้นบ่อ กระทั่งสามารถเกี่ยวขึ้นมาสู่ผิวน้ำ ก่อนใช้อุปกรณ์จับได้สำเร็จ อย่างปลอดภัย ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นงูหลามใหญ่ ขนาดลำตัวยาวกว่า 2 เมตร จึงได้ช่วยกันจับตัวใส่ถุงปุ๋ย นำไปปล่อยในป่าคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

           

จากการสอบถาม นางสมหมาย อายุ 65 ปี เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนได้ทำการซื้อขายที่ดินมาจากเจ้าของเดิม ซึ่งเคยเป็นโรงสีเก่ามาก่อน โดยเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ตนได้ว่าจ้างรถแบคโฮเข้ามาดำเนินการปรับที่ และรื้อโครงสร้างโรงสีเก่า เพื่อปรับพื้นที่ทำการเกษตร ปลูกไม้ผลและพืชผักสวนครัว

กระทั่งวันนี้ตนได้เดินสำรวจบริเวณสุดเขตแดนซึ่งอยู่ติดกับไร่อ้อย พบว่ามีบ่อบาดาลเก่า ซึ่งใช้เป็นบ่อพักน้ำของโรงสี โดย 1 ใน 5 บ่อ พบว่ามีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก ตนจึงชะโงกหน้ามองลงไปภายในบ่อ ก็ต้องตกใจแทบช็อก เมื่อเห็นงูหลามใหญ่ พยายามเลื้อยวนไปมาเพื่อหาทางขึ้นมาจากปากบ่อ

แต่เนื่องจากระดับน้ำกับขอบบ่อ ห่างกันราว 1.50 เมตร ทำให้งูหลามไม่สามารถขึ้นมาได้ ประกอบกับ ตามลำตัวเริ่มมีสีซีด จากการแช่น้ำมาแล้วหลายวัน คาดว่าขณะที่แบคโฮเข้าทำการปรับที่และรื้อถอน งูหลามที่อาศัยอยู่ในบริเวณโรงสีเก่าตกใจเสียงรถแบคโฮ จึงเลื้อยหนีอย่างรวดเร็ว ก่อนพลาดตกลงไปในบ่อน้ำบาดาล โชคดีที่ตนเดินมาเห็นเสียก่อน จึงรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยมาทำการช่วยเหลือได้สำเร็จ

ทั้งนี้ คอหวยที่ทราบข่าวต่างพากันจับตาถึงเลขเด็ดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะเจ้างูเหลือมสามารถรอดชีวิตมาได้ แม้จะตกอยู่ในบ่อน้ำนานถึง 3 วัน

พระราชทานเพลิงศพ “หลวงปู่สอ” เกิดปาฏิหาริย์ท้องฟ้ามืดครึ้ม-เลขเด็ดเกลี้ยงแผง

พระราชทานเพลิงศพเกจิดัง “หลวงปู่สอ” 114 ปี เกิดปาฏิหาริย์ท้องฟ้ามืดครึ้มจนเสร็จพิธี ศิษยานุศิษย์นับหมื่นแห่ร่วมงาน ขณะที่เลขเด็ดถูกกวาดเกลี้ยงแผง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่เมรุชั่วคราวโรงเรียนไตรราษฎร์วิทยาคาร บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน สถานที่จัดงานพระราชทานเพลิงศพพระครูปลัดสอ ขันติโก หรือ หลวงปู่สอ พระเกจิชื่อดัง 6 แผ่นดิน อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อายุ 114 ปี 94 พรรษา ซึ่งได้ละสังขาร ด้วยโรคชรา ไปอย่างสงบ เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา

>> “หลวงปู่สอ ขันติโก” พระเกจิดังแห่งนครพนมสิ้นแล้ว

โดยในพิธีครั้งนี้มี พระเทพวิสุทธิโมลี รักษาการเจ้าคณะภาค 10 ประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีอัญเชิญไฟพระราชทาน ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่สอ

โดยมีข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงาน เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ศิษย์ยานุศิษย์จากหลายจังหวัดในภาคอีสาน และพุทธศาสนิกชน เดินทางมาร่วมพิธีดังกล่าวกว่า 10,000 คน ซึ่งจะมีการประกอบพิธีเผาจริง ในเวลา 20.00 น. ส่วนภาคเช้าจะมีการประกอบพิธีทำบุญเก็บอัฐิ ก่อนนำไปลอยอังคารในลำน้ำโขง ตามประเพณีความเชื่อ

ภายหลังเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพ ได้เปิดให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกราบสักการบูชา ถวายดอกไม้จันทน์ และทำบุญทอดผ้าบังสุกุล เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้มาร่วมพิธี โดยเชื่อกันว่าหากใครได้มาร่วมพิธี จะส่งผลให้มีโชคลาภ เกิดความเจริญรุ่งเรือง และมีแต่ความร่วมเย็นเป็นสุข

ทั้งนี้ ในช่วงประกอบพิธีเป็นที่น่าอัศจรรย์เชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ เนื่องจากตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้ามีแดดจ้า แต่ช่วงประกอบพิธี ได้มีเมฆบดบังดวงอาทิตย์ ท้องฟ้ามืดครึ้ม และมีฝนโปรยปรายลงมาเป็นเหมือนละอองฝนเป็นระยะ ถือเป็นบุญบารมีของหลวงปู่สอ ที่แสดงให้พุทธศาสนิกชนได้รับรู้ถึงบุญบารมี ที่ได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาตลอดชีวิต

ที่สำคัญได้มีบรรดานักเสี่ยงโชค คอหวย ได้แห่ซื้อเลขมงคลเกี่ยวกับ หลวงปู่สอ ทั้งเลขอายุ คือ 114 เลขพรรษา 94 พรรษา รวมถึงวันที่พระราชทานเพลิงศพ คือ 19 ขายดีจนเกลี้ยงแผง

สำหรับประวัติ พระครูปลัดสอ (หลวงปู่สอ ขันติโก) เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อายุ 114 ปี รวม 93 พรรษา ถือเป็นพระ พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน มีนามเดิมว่า สอ แก้วดี เกิดในตระกูลชาวนา บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันจันทร์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2448 ปีมะเส็ง ตรงกับปลายรัชกาลที่ 5 เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 6 คน เสียชีวิตหมดแล้ว

โดยเมื่อแรกเกิดจากคำบอกเล่า ของญาติพี่น้องลูกหลาน มารดาหลวงปู่สอ เคยเล่าว่า บุตรชายตอนแรกเกิดมีสายรกพันคอ โบราณเชื่อว่า โตมาจะได้บวชร่ำเรียน ขณะที่ชีวิตในวัยเด็ก พื้นฐานมีนิสัยเป็นคนเรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน นิสัยชอบเข้าวัดฟังธรรม ผิดกับเด็กอื่นในวัยเดียวกัน

จนกระทั่งบิดามารดาได้พาไปกราบทำบุญฝากเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่สีทัตถ์ พระเกจิชื่อดัง ของ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ด้วยความเลื่อมในศรัทธา บวชเป็นสามเณรรับใช้ ตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบท มีหลวงปู่สีทัตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่รับใช้อุปัฏฐากผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ระยะหนึ่งจึงได้ออกธุดงค์ไปตามป่า จนกระทั่งได้รับทราบข่าวอาการป่วยของมารดา ในขณะที่หลวงปู่มีอายุ 32 ปี พรรษา 12 จึงลาสิกขามาดูแลบุพการีจนวาระสุดท้าย

จนกระทั่งในเวลาต่อมาจึงเข้าอุปสมบทอีกครั้ง และได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามป่าเขาในพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนจะข้ามไปฝั่งลาว อยู่จำพรรษาพัฒนานาวัดบ้านบุ่งนานหลายปี สป.ลาว หลายปี หลังหลวงปู่สีทัตถ์ ผู้เป็นอาจารย์ละสังขาร

จึงเดินทางกลับมาที่ฝั่งไทย จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งได้บำเพ็ญเพียรภาวนา จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านและศิษยานุศิษย์ตลอดมา ที่สำคัญ ยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน

ดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย สายตายังมองเห็นชัด หูได้ยินเป็นปกติ ที่ทำให้อายุยืน เหงือกและฟันยังอยู่ครบเต็มปาก ซึ่งหลวงปู่สอ ได้เผยถึงเคล็ดลับอายุยืนว่า ฉันภัตตาหารเนื้อปลา ยอดผักสด กล้วยน้ำหว้าวันละ 1 ลูก เป็นหลัก ควบคู่กับการเจริญภาวนา ให้จิตใจสงบ เชื่อว่าจะสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้

ขณะเดียวกันในแวดวงเซียนพระ เชื่อกันว่า ใครได้วัตถุมงคลหลวงปู่สอไปบูชา จะเกิดปาฏิหาริย์เรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวยเป็นหลัก ส่วนเหรียญรุ่นแรก คือ เมตตามหานิยม มีจำนวนจำกัด ประมาณ 1,700 เหรียญ

ส่วนเหรียญเนื้อทองคำ มีประมาณ 99 เหรียญ เหรียญเงิน แค่ประมาณ 1,000 กว่าเหรียญ ทุกวันนี้หายาก มีวงการพระให้มูลค่าราคาเช่าไว้เกือบแสนบาท ซึ่งได้จัดสร้างมาหลายรุ่น และรุ่นสุดท้าย รุ่นแผ่บารมี สร้างแค่ไม่กี่ 100 เหรียญ ทุกวันนี้หายาก

อย่างไรก็ตาม หลวงปู่สอ ไม่ได้สอนให้ยึดติดเรื่องวัตถุมงคล แต่เน้นเรื่องการทำความดี แต่การนับถือเป็นความเชื่อบุคคล การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นเรื่องเศร้ากับลูกศิษย์เป็นอย่างมาก เพราะถือว่า เป็นพระเกจิองค์สุดท้าย ที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน

สาวโชว์รูมซื้อหวยเลขท้ายรถ ปุ๊บปั๊บรับโชค 6 ล้าน แสนเสียดายแบ่งซื้อมาใบเดียว

(16 ต.ค. 62) นางสาวปนัดดา ผิวทอง อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดยโสธร พนักงานศูนย์บริการฮอนด้า พร้อมเพื่อนได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุพล ดุมกลาง รอง สว.สอบสวน สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เพื่อลงบันทึกประจำวันว่าตนเองเป็นผู้โชคดี ถูกรางวัลผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 หมายเลข 812564 จำนวน 1 ใบ รับเงินรางวัล 6 ล้านบาท

นางสาวปนัดดา สาวดวงเฮง บอกเพียงว่าตนไปกินข้าวในร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ชุมแพ แล้วมีแม่ค้านำลอตเตอรี่มาขายให้ ซึ่งก็พบว่ามีหมายเลข 812564 อยู่ด้วย ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 2 ใบ แต่ตนขอซื้อไว้เพียง 1 ใบเท่านั้นในราคา 100 บาท เนื่องจากเป็นตัวเลขท้ายตรงกับทะเบียนรถที่ขับ 564 อยู่ทุกวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยซื้อตามมา 3 ปีแล้ว และบางครั้งก็จะซื้อเลขสลับไปมา เคยถูกหวย รางวัลเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวบ้างในบางงวด

จนกระทั่งช่วงเย็นวันนี้หลังผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมา ปรากฏว่าตรงกับรางวัลที่ 1 รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังเสียดายที่ไม่ได้ซื้อมาทั้ง 2 ใบ หลังเลิกงานจึงรีบมาลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับเงินรางวัล 6 ล้านบาท ตอนนี้ยังไม่มีแผนจะนำมาใช้ คงต้องปรึกษาหารือกับทางครอบครัวก่อน

ขุดเพิ่มสำเร็จอีก 4 “ต้นตะเคียนโบราณ” ชาวบ้านเชื่อมุดหนีไปเองได้

เจอเพิ่มอีก 4 ต้นแล้ว ต้นตะเคียนโบราณที่โคราช หลังก่อนหน้านี้พยายามใช้รถแบ็คโฮกู้ขึ้นมาจากน้ำไม่สำเร็จ ชาวบ้านเชื่อมุดหนีไปเองได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 ต.ค.) คลองน้ำสาธารณะบ้านขาคีม ตำบลหลุมข้าว อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา พบชาวบ้านจำนวนมาก ได้ร่วมกันประกอบพิธีจุดธูปเทียน กราบไหว้ขอขมาเทวดาฟ้าดิน เพื่อให้เปิดทาง ในการใช้รถแบ็คโฮขนาดใหญ่ ขุดหาต้นตะเคียนภายในคลองน้ำ

โดยชาวบ้านเชื่อว่า ยังมีต้นตะเคียนหลงเหลืออยู่อีกประมาณ 4 ต้น หลังจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้ขุดพบต้นตะเคียนขนาดใหญ่ มาแล้วในคลองน้ำแห่งนี้ จำนวน 9 ต้น โดยก่อนที่จะขุดค้นได้นำร่างทรงมาประกอบพิธีเปิดทางโดยร่างทรงบอกว่า ยังคงมีดวงวิญญาณของชายชาติทหารในอดีตที่ยังคงสิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียน และยังคงจมอยู่ในคลองน้ำซึ่งมีความลึกประมาณกว่า 2 เมตร

แต่ในระหว่างที่รถแบ็คโฮได้ขุดเปิดทางน้ำชาวบ้านได้ดำน้ำลงไปดูพบว่ามีต้นตะเคียนขนาดใหญ่อยู่จริง แต่พอรถแบ็คโฮจะขุดขึ้นมา ต้นตะเคียนก็จะดำดินหนีลงไปเรื่อยๆ ทำให้ได้แค่เปลือกของต้นตะเคียนเท่านั้น ทั้งๆ ที่ชาวบ้านดำน้ำเห็นต้นตะเคียนมีอยู่จริง แต่เชื่อว่าต้นตะเคียนสามารถดำน้ำหนีรถแบ็คโฮไปได้

ล่าสุด ทางชาวบ้านได้ประกอบพิธีขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคลองน้ำโดยนำ ดอกไม้ธูปเทียน ใส่พานมากราบไหว้ หลังจากนั้น อยู่ดีๆ ต้นตะเคียนก็โผล่ขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ จำนวน 4 ต้น มีทั้งต้นเล็กๆ จนถึงต้นขนาดใหญ่ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำต้นตะเคียนขึ้นมาจากน้ำ

รวมพบต้นตะเคียนในจุดนี้จุดเดียวรวม ทั้งหมด 13 ต้น และ ยังเหลืออีก 2 ต้น โดยหลังจากนี้ทางชาวบ้านจะได้พยายามนำขึ้นมาทั้งหมด