แห่ขอหวย สุนัขคลอดลูกแปลก มีงวง มีงา แต่ไม่มีตาและจมูก

ชาวบ้านแตกตื่น สุนัขพันธุ์ไทยคลอดลูกออกมา 4 ตัว มี 2 ตัวมีลักษณะแตกต่างจากสุนัขทั่วไป ตัวแรกเพศผู้มีงวงคล้ายช้างแต่ไม่มีจมูก อีกตัวเพศเมียลักษณะคล้ายงา เจ้าของเชื่อจะมาให้โชค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (27 ต.ค.) ได้รับแจ้งจาก นายศิริกล้า แก้วสุทอ กรรมการผู้จัดการ หจก.ก.ศิริวิศวก่อสร้างว่า ที่แคมป์คนงานก่อสร้างพระพุทธเมตตาประชาสันต์ บ.บ่อแก้ว ต.บ่อแก้ว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร มีสุนัขพันธุ์ไทย คลอดลูกออกมา 4 ตัว โดย 2 ตัวแรกมีลักษณะเป็นปกติ

แต่ 2 ตัวหลังสีน้ำตาลอ่อน มีลักษณะผิดแปลกจากลูกสุนัขทั่วไป คือตัวแรกเพศผู้ตัวโต มีก้อนเนื้อยื่นออกมาทางปากคล้ายงวงช้าง ไม่มีตาไม่มีจมูก มีเพียงหู 2 ข้าง ตัวที่ 2 เล็กกว่า ลักษณะคล้ายมีงาสองข้างออกมาจากปากขนาดเล็ก แต่ไม่มีหู ตา และจมูก คลอดออกมาไม่นานลูกสุนัขทั้งสองก็เสียชีวิต

สร้างความประหลาดใจแก่ชาวบ้าน แห่กันมาชมไม่ขาดสาย และที่ขาดไม่ได้คือนำธูป เทียน มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอโชคลาภ ซึ่งต่างก็ตีเป็นเลขต่างๆ นานา แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล

นางคำพันธุ์ ไพคำนาม อายุ 43 ปี เจ้าของสุขและเป็นคนงานในแคมป์ กล่าวว่า ตนมาทำงานในแคมป์นาน 3 เดือน โดยนำสุนัขมาด้วย ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา สุนัขของตนได้คลอดลูกครอกที่ 2 ออกมาได้ 4 ตัว โดย 2 ตัวเป็นปกติ แต่ 2 ตัว มีลักษณะดังกล่าว จึงได้ไปตามคนมาดู จนเป็นที่กล่าวขวัญและมีชาวบ้านแห่กันมาดูไม่ขาดสาย บ้างก็ให้สตาฟเก็บไว้ เผื่อมีคนต้องการชม

จนกระทั่งมีการนิมนต์พระมาสวดเพื่อส่งดวงวิญญาณของสุนัขทั้งสองให้ไปยังสัมปรายภพ ก่อนหน้าที่สุนัขจะคลอด ตนฝันว่ามีคนเอาข้าวสารมาให้ไม่ขาดสาย ท่านต้องการเพียงเทียน ดอกไม้ และผ้าสีขาวเท่านั้น ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะมีโชคก็ได้ ส่วนสามีของตนหลังจากสุนัขคลอด 4 ตัวแล้ว ยังฝันว่าสุนัขตัวเดิมคลอดมาเพิ่มอีก 14 ตัว อาจมีโชคใหญ่ในครั้งนี้ก็ได้

คอหวยจับตา งูหลามใหญ่เลื้อยตกบ่อบาดาล แช่น้ำจนตัวซีดนานกว่า 3 วัน

(18 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองไผ่ อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีงูขนาดใหญ่เลื้อยตกลงไปในบ่อน้ำลึก ซึ่งภายในมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก โดยงูตัวดังกล่าวเริ่มมีสภาพอ่อนแรง ลำตัวเริ่มซีด คาดตกน้ำมาแล้วหลายวัน จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดหนองไผ่ ให้จัดเตรียมอุปกรณ์จับสัตว์เลื้อยคลาน

ที่เกิดเหตุ บริเวณหลังบ้านเลขที่ 54 หมู่ 1 ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ พบบ่อน้ำบาดาลเก่า ทำด้วยวงท่อซีเมนต์ ฝังดินเรียงกันทั้งหมด 5 บ่อ โดย 4 บ่อแรกถูกดินถมจนเต็ม แต่บ่อสุดท้าย พบว่ายังคงมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อก้มมองลงไปในบ่อพบงูขนาดใหญ่ ลำตัวสีเหลือง สลับน้ำตาล-ดำ กำลังพยายามเลื้อยวนไปมาเพื่อหาทางขึ้นมาปากบ่อ แต่พอเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์จับ ก็รีบมุดน้ำหนีลงไปก้นบ่อทันที

โดยเจ้าหน้าที่เฝ้ารออยู่ปากบ่อนานเกือบครึ่งชั่วโมง งูตัวดังกล่าวก็ไม่มีทีท่าจะโผล่ลอยน้ำขึ้นมาให้จับสักที จึงตัดสินใจหาตะขอเหล็กมัดใส่ปลายไม้ พยายามควานหาตัวที่ก้นบ่อ กระทั่งสามารถเกี่ยวขึ้นมาสู่ผิวน้ำ ก่อนใช้อุปกรณ์จับได้สำเร็จ อย่างปลอดภัย ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นงูหลามใหญ่ ขนาดลำตัวยาวกว่า 2 เมตร จึงได้ช่วยกันจับตัวใส่ถุงปุ๋ย นำไปปล่อยในป่าคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

           

จากการสอบถาม นางสมหมาย อายุ 65 ปี เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนได้ทำการซื้อขายที่ดินมาจากเจ้าของเดิม ซึ่งเคยเป็นโรงสีเก่ามาก่อน โดยเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ตนได้ว่าจ้างรถแบคโฮเข้ามาดำเนินการปรับที่ และรื้อโครงสร้างโรงสีเก่า เพื่อปรับพื้นที่ทำการเกษตร ปลูกไม้ผลและพืชผักสวนครัว

กระทั่งวันนี้ตนได้เดินสำรวจบริเวณสุดเขตแดนซึ่งอยู่ติดกับไร่อ้อย พบว่ามีบ่อบาดาลเก่า ซึ่งใช้เป็นบ่อพักน้ำของโรงสี โดย 1 ใน 5 บ่อ พบว่ามีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก ตนจึงชะโงกหน้ามองลงไปภายในบ่อ ก็ต้องตกใจแทบช็อก เมื่อเห็นงูหลามใหญ่ พยายามเลื้อยวนไปมาเพื่อหาทางขึ้นมาจากปากบ่อ

แต่เนื่องจากระดับน้ำกับขอบบ่อ ห่างกันราว 1.50 เมตร ทำให้งูหลามไม่สามารถขึ้นมาได้ ประกอบกับ ตามลำตัวเริ่มมีสีซีด จากการแช่น้ำมาแล้วหลายวัน คาดว่าขณะที่แบคโฮเข้าทำการปรับที่และรื้อถอน งูหลามที่อาศัยอยู่ในบริเวณโรงสีเก่าตกใจเสียงรถแบคโฮ จึงเลื้อยหนีอย่างรวดเร็ว ก่อนพลาดตกลงไปในบ่อน้ำบาดาล โชคดีที่ตนเดินมาเห็นเสียก่อน จึงรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยมาทำการช่วยเหลือได้สำเร็จ

ทั้งนี้ คอหวยที่ทราบข่าวต่างพากันจับตาถึงเลขเด็ดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะเจ้างูเหลือมสามารถรอดชีวิตมาได้ แม้จะตกอยู่ในบ่อน้ำนานถึง 3 วัน

พระราชทานเพลิงศพ “หลวงปู่สอ” เกิดปาฏิหาริย์ท้องฟ้ามืดครึ้ม-เลขเด็ดเกลี้ยงแผง

พระราชทานเพลิงศพเกจิดัง “หลวงปู่สอ” 114 ปี เกิดปาฏิหาริย์ท้องฟ้ามืดครึ้มจนเสร็จพิธี ศิษยานุศิษย์นับหมื่นแห่ร่วมงาน ขณะที่เลขเด็ดถูกกวาดเกลี้ยงแผง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่เมรุชั่วคราวโรงเรียนไตรราษฎร์วิทยาคาร บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน สถานที่จัดงานพระราชทานเพลิงศพพระครูปลัดสอ ขันติโก หรือ หลวงปู่สอ พระเกจิชื่อดัง 6 แผ่นดิน อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อายุ 114 ปี 94 พรรษา ซึ่งได้ละสังขาร ด้วยโรคชรา ไปอย่างสงบ เมื่อเวลา 18.12 น. วันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา

>> “หลวงปู่สอ ขันติโก” พระเกจิดังแห่งนครพนมสิ้นแล้ว

โดยในพิธีครั้งนี้มี พระเทพวิสุทธิโมลี รักษาการเจ้าคณะภาค 10 ประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีอัญเชิญไฟพระราชทาน ในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่สอ

โดยมีข้าราชการ หัวหน้าหน่วยงาน เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน ศิษย์ยานุศิษย์จากหลายจังหวัดในภาคอีสาน และพุทธศาสนิกชน เดินทางมาร่วมพิธีดังกล่าวกว่า 10,000 คน ซึ่งจะมีการประกอบพิธีเผาจริง ในเวลา 20.00 น. ส่วนภาคเช้าจะมีการประกอบพิธีทำบุญเก็บอัฐิ ก่อนนำไปลอยอังคารในลำน้ำโขง ตามประเพณีความเชื่อ

ภายหลังเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงศพ ได้เปิดให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกราบสักการบูชา ถวายดอกไม้จันทน์ และทำบุญทอดผ้าบังสุกุล เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้มาร่วมพิธี โดยเชื่อกันว่าหากใครได้มาร่วมพิธี จะส่งผลให้มีโชคลาภ เกิดความเจริญรุ่งเรือง และมีแต่ความร่วมเย็นเป็นสุข

ทั้งนี้ ในช่วงประกอบพิธีเป็นที่น่าอัศจรรย์เชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ เนื่องจากตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้ามีแดดจ้า แต่ช่วงประกอบพิธี ได้มีเมฆบดบังดวงอาทิตย์ ท้องฟ้ามืดครึ้ม และมีฝนโปรยปรายลงมาเป็นเหมือนละอองฝนเป็นระยะ ถือเป็นบุญบารมีของหลวงปู่สอ ที่แสดงให้พุทธศาสนิกชนได้รับรู้ถึงบุญบารมี ที่ได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาตลอดชีวิต

ที่สำคัญได้มีบรรดานักเสี่ยงโชค คอหวย ได้แห่ซื้อเลขมงคลเกี่ยวกับ หลวงปู่สอ ทั้งเลขอายุ คือ 114 เลขพรรษา 94 พรรษา รวมถึงวันที่พระราชทานเพลิงศพ คือ 19 ขายดีจนเกลี้ยงแผง

สำหรับประวัติ พระครูปลัดสอ (หลวงปู่สอ ขันติโก) เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อายุ 114 ปี รวม 93 พรรษา ถือเป็นพระ พระอริยสงฆ์ 6 แผ่นดิน มีนามเดิมว่า สอ แก้วดี เกิดในตระกูลชาวนา บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันจันทร์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2448 ปีมะเส็ง ตรงกับปลายรัชกาลที่ 5 เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 6 คน เสียชีวิตหมดแล้ว

โดยเมื่อแรกเกิดจากคำบอกเล่า ของญาติพี่น้องลูกหลาน มารดาหลวงปู่สอ เคยเล่าว่า บุตรชายตอนแรกเกิดมีสายรกพันคอ โบราณเชื่อว่า โตมาจะได้บวชร่ำเรียน ขณะที่ชีวิตในวัยเด็ก พื้นฐานมีนิสัยเป็นคนเรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน นิสัยชอบเข้าวัดฟังธรรม ผิดกับเด็กอื่นในวัยเดียวกัน

จนกระทั่งบิดามารดาได้พาไปกราบทำบุญฝากเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่สีทัตถ์ พระเกจิชื่อดัง ของ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ด้วยความเลื่อมในศรัทธา บวชเป็นสามเณรรับใช้ ตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบท มีหลวงปู่สีทัตถ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่รับใช้อุปัฏฐากผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ระยะหนึ่งจึงได้ออกธุดงค์ไปตามป่า จนกระทั่งได้รับทราบข่าวอาการป่วยของมารดา ในขณะที่หลวงปู่มีอายุ 32 ปี พรรษา 12 จึงลาสิกขามาดูแลบุพการีจนวาระสุดท้าย

จนกระทั่งในเวลาต่อมาจึงเข้าอุปสมบทอีกครั้ง และได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามป่าเขาในพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนจะข้ามไปฝั่งลาว อยู่จำพรรษาพัฒนานาวัดบ้านบุ่งนานหลายปี สป.ลาว หลายปี หลังหลวงปู่สีทัตถ์ ผู้เป็นอาจารย์ละสังขาร

จึงเดินทางกลับมาที่ฝั่งไทย จำพรรษาที่วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งได้บำเพ็ญเพียรภาวนา จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านและศิษยานุศิษย์ตลอดมา ที่สำคัญ ยังเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน

ดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย สายตายังมองเห็นชัด หูได้ยินเป็นปกติ ที่ทำให้อายุยืน เหงือกและฟันยังอยู่ครบเต็มปาก ซึ่งหลวงปู่สอ ได้เผยถึงเคล็ดลับอายุยืนว่า ฉันภัตตาหารเนื้อปลา ยอดผักสด กล้วยน้ำหว้าวันละ 1 ลูก เป็นหลัก ควบคู่กับการเจริญภาวนา ให้จิตใจสงบ เชื่อว่าจะสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้

ขณะเดียวกันในแวดวงเซียนพระ เชื่อกันว่า ใครได้วัตถุมงคลหลวงปู่สอไปบูชา จะเกิดปาฏิหาริย์เรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวยเป็นหลัก ส่วนเหรียญรุ่นแรก คือ เมตตามหานิยม มีจำนวนจำกัด ประมาณ 1,700 เหรียญ

ส่วนเหรียญเนื้อทองคำ มีประมาณ 99 เหรียญ เหรียญเงิน แค่ประมาณ 1,000 กว่าเหรียญ ทุกวันนี้หายาก มีวงการพระให้มูลค่าราคาเช่าไว้เกือบแสนบาท ซึ่งได้จัดสร้างมาหลายรุ่น และรุ่นสุดท้าย รุ่นแผ่บารมี สร้างแค่ไม่กี่ 100 เหรียญ ทุกวันนี้หายาก

อย่างไรก็ตาม หลวงปู่สอ ไม่ได้สอนให้ยึดติดเรื่องวัตถุมงคล แต่เน้นเรื่องการทำความดี แต่การนับถือเป็นความเชื่อบุคคล การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นเรื่องเศร้ากับลูกศิษย์เป็นอย่างมาก เพราะถือว่า เป็นพระเกจิองค์สุดท้าย ที่มีอายุยืนรูปหนึ่งในภาคอีสาน

ขุดเพิ่มสำเร็จอีก 4 “ต้นตะเคียนโบราณ” ชาวบ้านเชื่อมุดหนีไปเองได้

เจอเพิ่มอีก 4 ต้นแล้ว ต้นตะเคียนโบราณที่โคราช หลังก่อนหน้านี้พยายามใช้รถแบ็คโฮกู้ขึ้นมาจากน้ำไม่สำเร็จ ชาวบ้านเชื่อมุดหนีไปเองได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 ต.ค.) คลองน้ำสาธารณะบ้านขาคีม ตำบลหลุมข้าว อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา พบชาวบ้านจำนวนมาก ได้ร่วมกันประกอบพิธีจุดธูปเทียน กราบไหว้ขอขมาเทวดาฟ้าดิน เพื่อให้เปิดทาง ในการใช้รถแบ็คโฮขนาดใหญ่ ขุดหาต้นตะเคียนภายในคลองน้ำ

โดยชาวบ้านเชื่อว่า ยังมีต้นตะเคียนหลงเหลืออยู่อีกประมาณ 4 ต้น หลังจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้ขุดพบต้นตะเคียนขนาดใหญ่ มาแล้วในคลองน้ำแห่งนี้ จำนวน 9 ต้น โดยก่อนที่จะขุดค้นได้นำร่างทรงมาประกอบพิธีเปิดทางโดยร่างทรงบอกว่า ยังคงมีดวงวิญญาณของชายชาติทหารในอดีตที่ยังคงสิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียน และยังคงจมอยู่ในคลองน้ำซึ่งมีความลึกประมาณกว่า 2 เมตร

แต่ในระหว่างที่รถแบ็คโฮได้ขุดเปิดทางน้ำชาวบ้านได้ดำน้ำลงไปดูพบว่ามีต้นตะเคียนขนาดใหญ่อยู่จริง แต่พอรถแบ็คโฮจะขุดขึ้นมา ต้นตะเคียนก็จะดำดินหนีลงไปเรื่อยๆ ทำให้ได้แค่เปลือกของต้นตะเคียนเท่านั้น ทั้งๆ ที่ชาวบ้านดำน้ำเห็นต้นตะเคียนมีอยู่จริง แต่เชื่อว่าต้นตะเคียนสามารถดำน้ำหนีรถแบ็คโฮไปได้

ล่าสุด ทางชาวบ้านได้ประกอบพิธีขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคลองน้ำโดยนำ ดอกไม้ธูปเทียน ใส่พานมากราบไหว้ หลังจากนั้น อยู่ดีๆ ต้นตะเคียนก็โผล่ขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ จำนวน 4 ต้น มีทั้งต้นเล็กๆ จนถึงต้นขนาดใหญ่ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำต้นตะเคียนขึ้นมาจากน้ำ

รวมพบต้นตะเคียนในจุดนี้จุดเดียวรวม ทั้งหมด 13 ต้น และ ยังเหลืออีก 2 ต้น โดยหลังจากนี้ทางชาวบ้านจะได้พยายามนำขึ้นมาทั้งหมด

ฮือฮา ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ขอมโบราณ ชาวบ้านไม่พลาดแห่ขอเลขเด็ด

ชาวบ้านหนองตานา ต.หนองขาม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ขุดบ่อน้ำพบโครงกระดูกคาดว่าเป็นมนุษย์ขอมโบราณอายุหลายร้อยปี เตรียมแจ้งเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ต.ค.) ชาวบ้านหนองตานา หมู่ 4 ต.หนองขาม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ขุดบ่อน้ำในพื้นที่นา แต่ได้พบโครงกระดูกคนโบราณ จึงได้ลงไปตรวจอยู่ในที่นาของ นายเฮียง โขมชัยภูมิ อายุ 70 ปี ซึ่งมีพื้นที่นาประมาณ 30 ไร่ ห่างจากหมู่บ้าน ประมาณ 1 กิโลเมตร

และพบชาวบ้านกว่า 10 คน กำลังช่วยกันนำโครงกระดูกมาล้างทำความสะอาด และนำมาเรียงต่อกันพร้อมด้วยเครื่องปั้นดินเผาคล้ายไหขนาดเล็กและยังพบว่ามีกำไรข้อมือที่เป็นเหมือนทองสัมฤทธิ์สมัยโบราณในสภาพหักครึ่ง

โดย นายเฮียง เจ้าของที่นาได้จ้างให้คนงานให้มาขุดบ่อน้ำในที่ดิน เพื่อหวังจะได้น้ำไปใส่นาข้าว ขณะที่คนงานขุดดินลึกลงไปประมาณ 2 เมตรถึงกับผงะตกใจ เพราะที่เจอคือโครงกระดูกมนุษย์พร้อมกับไหดินเผา และกำไรมือในสภาพแตกหัก หลังจากตั้งสติได้ จึงไปเรียกนายเฮียงมาดู และได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านให้มาตรวจดูว่าเป็นกระดูกของคนในยุคปัจจุบันหรือยุคโบราณหรือไม่

หลังจาก ชาวบ้านทราบข่าวต่างมาดูกันจำนวนมาก พร้อมบอกว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์โบราณ อายุน่าจะหลายร้อยปี ชาวบ้านบอกว่าถึงไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ จากนั้นก็มีชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ เพื่อขอพรเป็นสิริมงคลและขอโชคลาภตามระเบียบ

และต่างคนได้เลขเด็ดไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลตามเลขที่ตนเองมองเห็น งานนี้ ไม่พลาดหลังคนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลทราบข่าว ต่างนำสลากกินแบ่งรัฐบาลมาบริการถึงสถานที่ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ

ชาวบ้านหญิงรายหนึ่ง ซึ่งมีที่นาติดกันต่อกับจุดที่พบโครงกระดูก เล่าว่า ที่ผ่านมาเมื่อตนเองมานอนเฝ้านาข้าวช่วงกลางคืนทุกครั้ง ก็มักจะฝันเห็นชายร่างใหญ่คล้ายคนโบราณทุกครั้ง และจะมักจะเจอของโบราณบ่อยๆ ในบริเวณนี้ เช่น สากหิน ถ้วย ชามต่างๆ ด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้านำออกไปจากบริเวณนี้

ด้าน นายสมยศ เรืองสุข ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 กล่าวว่า ตามคำบอกเล่าเมื่อก่อนที่บริเวณนี้เคยเป็นชุมชนเก่าแก่สมัยขอมโบราณยุคพระเจ้าชัยวรมัน ที่ 2 ซึ่งปัจจุบันยังมีปรางค์กู่ เจดีย์เก่าแก่ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน และที่ผ่านมาชาวบ้านเองก็ขุดเจอโครงกระดูกและเศษเครื่องปั้นดินเผาบ่อยๆ

เบื้องต้น ให้มีการจัดคนมาดูแล ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเวรยาม เพื่อมิให้ใครลงไปจับต้อง เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร มาตรวจสอบโดยละเอียดต่อไปอีกครั้ง

นาคน้อยรำถวายพ่อปู่ศรีสุทโธ-แม่ย่าศรีปทุมมา คอหวยส่องขันน้ำมนต์เห็นชัดๆ 37

ส่องเลขเด็ดจากลานบวงสรวงหน้าเกาะคำชะโนด วังนาคินทร์ ดินแดนพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา นาคน้อย-คอหวย เผยเลขเด็ดจากขันน้ำมนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 ก.ย.) เวลา 12.20 น. จากลานบวงสรวงหน้าเกาะคำชะโนด วังนาคินทร์ ดินแดนพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา บ้านโนนเมือง หมู่ที่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ว่าวันนี้ที่ลานบวงสรวงหน้าเกาะคำชะโนดเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทุกสารทิศ เพื่อนำเครื่องไหว้มาแก้บนบ้างที่เคยบนไว้แล้วสำเร็จ บางคนก็มาบวงสรวงเปิดทรัพย์รับโชคของโชคลาภในวันใกล้หวยออกเผื่อปู่และย่าจะให้โชต

โดยมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี ได้นำคณะผู้มีจิตเป็นกุศลได้ร่วมกันบริจาคเป็นกองผ้าป่าเพื่อนำมาถวายที่วัดสิริสุทโธ ก่อนที่จะนำผ้าไปถวายได้ร่วมกันทำพิธีบวงสรวงที่ลานบวงสรวงก่อน ใช้เวลาทำพิธีบวงสรวงอยู่นานเกือบชั่วโมง

หลังจากนั้นทางคณะที่เดินทางมาถวายผ้าป่าร่วมกันรำบวงสรวงถวายปู่ศรีสุทโธและแม่ย่า หนึ่งในนั้นมีนาคน้อยเกาะคำชะโนดร่วมรำถวายปู่ ทำเอาแฟนของนาคน้อยรอชมการชูนิ้วว่างวดนี้จะเห็นเลขเด็ด และนาคน้อยได้ส่องขันน้ำมนต์พิธีด้วย การส่องแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ส่วนนาคน้อยส่องบอกว่าเห็นน้ำตาเทียนเป็นเลข 80,08 บางคนเห็นเลขสามตัว 37 ตามความเชื่อของคนชอบตัวเลข

แตกตื่นทั้งโรงเรียน งูเหลือมโผล่ฝากระโปรงรถ ครู-ผู้ปกครองแห่ถ่ายรูปเลขทะเบียน

นักเรียนเห็นงูเหลือมโผล่ฝากระโปรงรถเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร จ.เลย ครูและผู้ปกครองรีบมามุมถ่ายรูปและเลขทะเบียนรถ หวังเอาไปเสี่ยงโชค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (13 ก.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ศูนย์วิทยุสว่างคีรีธรรม จ.เลย ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือมีงูเหลือมโผล่ในฝากระโปรง ภายในลานจอดรถโรงเรียนเมืองเลย เมื่อได้รับแจ้งประสานไปยังกู้ภัยสว่างฯ จุดเมือง เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เงิน จอดอยู่ลานจอดรถของโรงเรียน พบครูและผู้ปกครองเด็กจำนวนหนึ่งมุงดู ส่วนเด็กนักเรียนให้กลับไปห้องเรียนแล้วเพื่อความปลอดภัย

กู้ภัยฯ ใช้อุปกรณ์จับงู เมื่อเปิดฝากระโปรงรถดูพบงูเหลือยาวกว่า 1 เมตร ซุกอยู่หน้ากระจังรถ และโผล่หัวออกม ใช้เวลากว่า 10 นาที จนสามารถจับงูออกมาได้ ครูและผู้ปกครองต่างถ่ายรูปและเลขทะเบียนรถ 524 เพื่อมีโชคถูกหวยงวดวันที่ 16 ก.ย.62 ส่วนกู้ภัยฯ นำงูเหลิอมไปปล่อยป่าคืนสู่ธรรมชาติ

จากการสอบถาม นางสาวศิริรัตน์ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร จ.เลย เจ้าของรถยังอยู่ในอาการที่ตกใจ เล่าว่า ตนเองขับรถมาจากสำนักงานเกษตร จ.เลย มาทำธุระบริเวณโรงเรียนเมืองเลย ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถของโรงเรียนและไปทำธุระ

เมื่อกลับมาเห็นเด็กนักเรียนตะโกนบอกว่าเห็นงูโผล่มาจากใต้ฝากระโปรงรถ จึงรีบแจ้งกู้ภัยสว่างคีรีธรรมมาช่วย รู้สึกโล่งอกที่จับงูออกไปได้ ก็ไม่รู้ว่างูมาจากไหน

แม่บ้านยกมือไหว้ขอโชค งูเหลือมยักษ์ยาวเกือบ 5 เมตร เลื้อยเขมือบแมวคอนโด

งูเหลือมยักษ์ยาวเกือบ 5 เมตร เข้าไปขโมยกินแมวในคอนโด ก่อนหนีไปซ่อนในกองขยะ กู้ภัยช่วยจับปล่อยคืนสู่ธรรมชาติบนดอยสุเทพ เผยตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจับมา น้ำหนักกว่า 20 กิโลกรัม แม่บ้านถึงกับยกมือไหว้ขอโชคลาภ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 ก.ย.) เจ้าหน้าที่กู้ภัย เทศบาลนครเชียงใหม่ นำอุปกรณ์เข้าไปจับงูเหลือมตัวหนึ่ง ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้แผ่นคอนกรีตในกองขยะ บริเวณคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่ง ย่านถนนห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อเปิดออกมาถึงกับตะลึง เพราะงูตัวนี้มีความยาวกว่า 5 เมตร คาดมีน้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าตัวใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เคยจับมา

ใช้เวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะจับมันใส่ในกระสอบได้ เพราะมันไม่ยอมง่ายๆ พยายามขดตัวรัดท่อนเหล็กที่ใช้จับ และมันยังมีแรงมากตามขนาดของตัวมัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องออกแรงเหนื่อย ขณะที่แม่บ้านคอนโดฯ ที่เห็นพากันตื่นตกใจ บางคนถึงกับยกมือไหว้พร้อมขอโชคลาภให้ถูกหวย

จากการสอบถาม เจ้าหน้าที่กู้ภัย ระบุว่า ได้รับแจ้งจากแม่บ้านคอนโดมีเนียมขอให้ไปช่วยจับงู หลังพบว่ามีแมวถูกงูรัด วิ่งหนีไปตายที่หน้าคอนโด ส่วนงูเหลือมเมื่อเห็นแม่บ้าน ได้เลื้อยไปซ่อนตัวอยู่ในกองขยะ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาจับ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกว่าช่วงหน้าฝนมักมีงูเหลือมออกจากป่าไปหากินตามบ้านเรือนประชาชน และได้รับแจ้งให้ไปช่วยจับงูวันละหลายครั้ง พร้อมฝากเตือนไม่ควรทำร้าย หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปจับปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

คอหวยคำชะโนดโล่งใจ ต้นมะเดื่อยักษ์ไปขอโชคได้แล้วหลังเจอน้ำท่วมนานนับสัปดาห์

ต้นมะเดื่อยักษ์ คำชะโนด ถูกน้ำท่วมมานับสัปดาห์ ล่าสุด สามารถเดินเข้าส่องหาเลขเด็ดได้แล้ว ขณะที่ลานบวงสรวงมีพิธีรำแก้บนหลังถูกหวยทั้งหมู่บ้าน 3 งวดซ้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. บริเวณสะพานรอบต้นมะเดื่อยักษ์ อายุนับร้อยปี ภายในเกาะคำชะโนด วังนาคินทร์ ดินแดนพญานาคราชพ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา บ้านโนนเมือง หมู่ที่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี วันนี้ตรงกับวันหยุดนักท่องท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้พ่อปู่แม่ย่ากันอย่างหนาตา

หลังจากเข้ากราบไหว้ปู่บนศาลปู่เสร็จแล้วก็ไม่ผิดหวัง สามารถเดินตามสะพานไม้เข้าไปภายในโคนมะเดื่อยักษ์ ที่ถูกน้ำท่วมมานับสัปดาห์ ทางกรรมการบริหารจัดการเร่งสูบน้ำออก ถึงแม้ว่าบริเวณสะพานรอบต้นมะเดื่อยักษ์ สามารถเดินเข้าส่องหาเลขเด็ดลูบหาเลขเด็ดเพียงครึ่งเดียว ส่วนหนึ่งน้ำยังท่วมสูงในระดับจากระดับพื้นดินประมาณ 75 เซนติเมตร เชื่อว่าในอีกไม่กี่วันน้ำคงจะลดเข้าสู่ภาวะปกติ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบตัวเลข ก่อนเข้าสะพานต้นมะเดื่อยักษ์มีขันน้ำมนต์ตั้งอยู่ นักท่องเที่ยวก็แห่ใช้โทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปไว้กลับไปส่องที่บ้าน ว่าน้ำตาเทียนเป็นเลขอะไร บางคนที่ส่องแล้วบอกว่าเห็นน้ำตาเทียนเป็นเลข 50,05,20,02, 53 และ 35

ขณะที่ คุณยายท่านหนึ่ง ส่องหาเลขตามรากมะเดื่อยักษ์อย่างลำบากเพราะน้ำยังท่วม ยายบอกว่าเห็นตัวเลขชัดมากที่รากมะเดื่อคือ 90,09 พร้อมกับหันมาบอกเพื่อนร่วมเดินทาง

สำหรับที่ลานบวงสรวงมีการรำบวงสรวงตามปกติ แต่ที่พิเศษคือวันนี้มีชาวบ้านจากทมนาดี ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี นั่งรถบัสจำนวน 4 คัน มาเกือบทั้งหมู่บ้าน มาทำโรงทานและมารำแก้บนที่ลานบวงสรวง เนื่องจากถูกหวยติดต่อกันมา 3 งวดแล้ว นำโดย น.ส.ชลธิชา หรือ น้องเน็ต ผู้ได้โชคและโชคดีมากกว่าทุกคน

โดย น.ส.ชลธิชา หรือ น้องเน็ต เป็นผู้นำโชคเข้าหมู่บ้าน หลังมาขอเลขเด็ดที่คำชะโนด ด้วยการมาลูบหาเลขเด็ดที่ต้นมะเดื่อยักษ์ ทำเอาชาวบ้านถูกติดต่อกันมาแล้วทั้งหมู่บ้าน จึงมารำแก้บนให้ปู่ศรีสุทโธเพื่อความเป็นสิริมงคลและขอโชคลาภต่อ

ต้นกวักมรกตให้โชค 4 งวดติด เจ้าของร้านชำเฮ! หลานสาวถูกเลขท้าย 20 เกือบแสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (2 ส.ค.) สำหรับต้นกวักมรกตที่ตั้งอยู่หน้าร้านขายของชำของ นางเทียนบุญยาพร อายุ 55 ปี พักอยู่ที่ ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง บริเวณข้างสวนสุขภาพเมืองบ้านฉาง หลังผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 ก.ย. 62 ผลรางวัลเลขท้ายสองตัว 20 ตรงๆ ชาวบ้านฉางดวงเฮงถูกรางวัลไปตามๆ กันอีกครั้ง

จากการสอบถาม นางเทียนบุญยาพร เจ้าของร้านชำ เล่าว่า หลังจากที่เป็นข่าวเกี่ยวกับต้นกวักมรกต ต้นไม้มงคลที่ชาวบ้านทั่วไปนิยมปลูกไว้เพื่อกวักทรัพย์กวักโชคเข้าบ้านซึ่งที่หน้าร้านของตนนั้นปลูกไว้มานานแล้วก็ให้โชคมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถูกติดต่อกันเป็นจำนวนถึงงวดที่ 4 แล้ว

ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากเป็นข่าวออกไปปรากฏว่านักเสี่ยงโชคต่างนำภาพข่าวไปตีเลขต่างๆ นานา และหลานของตนที่อยู่ต่างจังหวัดโทรมาบอกว่าเห็นเลขป้าย 20 ที่อยู่ติดกับกระถางต้นกวักมรกต ก็ไปซื้อเลข 20 มา ปรากฏว่าออก 20 ตรงๆ ได้รับรางวัลกว่า 6 หมื่นบาท

รวมทั้งคนรู้จักที่ทราบข่าวก็นำไปซื้อตามกันหลายคน หลังจากที่หวยออกก็เดินทางมาบอกว่าซื้อตามและถูกจริงๆ ส่วนตนก็นำลักษณะของดอกที่ขดเป็นวงกลมคล้ายเลข 8 ส่วน 7 ได้มาจากความเชื่อว่าต้นไม้เป็นเลข 7 จึงไปซื้อ 87 และซื้อ 20 ไว้เช่นกัน

ส่วนต้นกวักมรกตนิยมนำมาปลูกภายในบริเวณบ้านเพราะถือว่าเป็นไม้มงคลช่วยเรียกทรัพย์ ส่วนการดูแลรักษายังเลี้ยงง่ายเพราะไม่ต้องรดน้ำบ่อยๆ ต้นไม้ชนิดนี้จึงดูเหมือนมีมนต์เสน่ห์ของต้นกวักมรกตเรียกทรัพย์ ดึงดูดโชคเข้าบ้านจนกลายเป็นต้นไม้ที่มีคนปลูกจำนวนมากอย่างเช่นทุกวันนี้นั่นเอง